จุดแรกที่นางสาวพรมรินทร์ ค่ำคุณ พามาดูคือห้องครัวที่ นายวินัย หรือ เตี้ย ผู้ต้องหา เข้ามาภายในบ้าน ก่อนใช้สก๊อตเทปพันนางสาวพรพรรณ ค่ำคุณ น้องสาว จากข้างหลังพร้อมสมอลทอล์ก พร้อมขู่ว่าจะใช้น้ำกรดที่เตรียมมาด้วยหากไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ ก่อนใช้ลวดมัดขา ถัดจากนั้นคือจุดที่เธอลงมาเจอน้องสาว และใช้กำลังยื้อแย่งอาวุธ และตัวน้องสาวออกมาจากนายเตี้ย เพราะ นายเตี้ยนำมีดที่เตรียมมาขู่ทำร้าย ระหว่างเกิดเหตุ เธอเล่าว่า นายเตี้ยปล่อยน้องสาว และพยายามเข้ามาทำทำร้ายเธอ จึงวิ่งหนีไปที่ประตูหน้าบ้าน แต่ประตูล็อก จึงถูกนายเตี้ย ทุบศีรษะ
ขณะที่น้องสาวใช้จังหวะชุลมุน วิ่งหนีออกไปทางประตูข้างบ้าน ทำให้นายเตี้ยวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน จึงวิ่งกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง เธอและหลานจึงตัดสินใจล็อกบ้าน ทำให้นายเตี้ย ที่จอดรถแท็กซี่สีส้มไว้ฝั่งตรงข้ามบ้านหลบหนีไป พร้อมขู่จะกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นช่วง 02.00-03.00 นายเตี้ยกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่พบรถแท็กซี่ แต่พบร่องรอยปีนมาจากรั้วฝั่งตรงข้าม ก่อนก่อเหตุเผารถแท็กซี่เพื่อนชายผู้เสียหาย ที่จอดอยู่หน้าบ้าน และพยายามจะทุบรถอีกคันโดยเตรียมก้อนหินไว้ข้างเสา แต่เพื่อนชายลงมาเจอก่อน ผู้เสียหายยอมรับว่า แม้ล่าสุดตำรวจจะออกหมายจับคนร้าย และมาดูแลความปลอดภัย แต่ยังไม่ไว้วางใจ เพราะยังไม่สามารถจับตัวได้
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบ้านเอื้ออาทรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเตี้ย พบว่า ห้องถูกปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่ จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่อาคารเดียวกัน ทราบว่า นายเตี้ย มาอาศัยอยู่ที่นี่ สิบกว่าปีแล้วกับภรรยา และลูกอีก 2 คน โดยทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า นายเตี้ยเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะได้รับโทษน้อยและออกมาก่อเหตุล้างแค้น นาย ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ระบุว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ เป็นพฤติกรรมรุนแรง สามารถขอให้พนักงานอัยการบรรยายฟ้องเพื่อให้รับโทษสูงสุดได้ โดยแจ้งข้อหา พยายามทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้รับบาดเจ็บสาหัส บุกรุกเคหะสถาน ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำลายทรัพย์สิน
จากนั้นช่วง 02.00-03.00 นายเตี้ยกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่พบรถแท็กซี่ แต่พบร่องรอยปีนมาจากรั้วฝั่งตรงข้าม ก่อนก่อเหตุเผารถแท็กซี่เพื่อนชายผู้เสียหาย ที่จอดอยู่หน้าบ้าน และพยายามจะทุบรถอีกคันโดยเตรียมก้อนหินไว้ข้างเสา แต่เพื่อนชายลงมาเจอก่อน
ผู้เสียหายยอมรับว่า แม้ล่าสุดตำรวจจะออกหมายจับคนร้าย และมาดูแลความปลอดภัย แต่ยังไม่ไว้วางใจ เพราะยังไม่สามารถจับตัวได้
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบ้านเอื้ออาทรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเตี้ย พบว่า ห้องถูกปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่ จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่อาคารเดียวกัน ทราบว่า นายเตี้ย มาอาศัยอยู่ที่นี่ สิบกว่าปีแล้วกับภรรยา และลูกอีก 2 คน โดยทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า นายเตี้ยเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะได้รับโทษน้อยและออกมาก่อเหตุล้างแค้น นาย ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ระบุว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ เป็นพฤติกรรมรุนแรง สามารถขอให้พนักงานอัยการบรรยายฟ้องเพื่อให้รับโทษสูงสุดได้ โดยแจ้งข้อหา พยายามทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้รับบาดเจ็บสาหัส บุกรุกเคหะสถาน ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำลายทรัพย์สิน
ด้านคดีตำรวจ สน.หนองแขม ยังอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหา หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายวินัย หรือ เตี้ย ไปเมื่อวานนี้ ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย โดยพบว่ายังอยู่ในพื้นที่ จึงจัดชุดสืบสวนเฝ้าติดตามพฤติกรรม และความเคลื่อนไหว คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนเรื่องการทำลายทรัพย์สินยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน