วันนี้ 6 ก.ย. 2562 นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ จำเลยคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี เปิดเผยก่อนขึ้นไปร่วมฟังคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
“บุญทรง” ถึงศาลฎีกาพร้อมฟังคำพิพากษา “จำนำข้าว”
ศาลตัดสิน "บุญทรง" สู่บทสรุประบายข้าวจีทูจีปลอม
ทนายความหวังว่า ยังพอมีความหวังที่ศาลจะมีการพิจารณาคดีเป็นประโยชน์ต่อลูกความของตัวเอง ซึ่งในชั้นอุทธรณ์ฝ่ายจำเลยมีหลักฐานใหม่เข้ายื่นประกอบในการพิจารณา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะต้องเคารพต่อคำสั่งของศาล
นอกจากนี้นายบุญทรง มีอาการเครียดเล็กน้อย เนื่องจากมีความกังวลใจในการพิจารณาคดีของศาล ที่จะมีคำตัดสินออกมาในวันนี้
เบื้องต้นศาลฎีกาฯ ได้กำหนดนัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ในเวลา 11.00 น. สืบเนื่องจากอัยการโจทก์และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตามกฎหมายใหม่ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ สามารถยื่นอุทธรณ์ได้และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ จะทำการคัดเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโส ที่เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าคณะในศาลฎีกาจำนวน 9 คน ที่ไม่เคยนั่งพิจารณาคดีดังกล่าวมาก่อน เพื่อมาเป็นองค์คณะวินิจฉัยและให้ถือว่าคําวินิจฉัยนั้นเป็นคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
จำคุก "บุญทรง" 42 ปี คดีทุจริตขายข้าวจีทูจีเก๊
สำหรับคดีนี้ศาลฎีกาฯได้มีคำพิพากษาชั้นต้น เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2560 โดยสั่งจำคุกจำเลยคนสำคัญมากมาย เช่น จำคุกนายบุญทรง เป็นเวลา 42 ปี , นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ถูกจำคุกเป็นเวลา 36 ปี นายอภิชาต หรือ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ ถูกจำคุกเป็นเวลา 48 ปี นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกจำคุกเป็นเวลา 40 ปี
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักการเมือง – ข้าราชการ – และภาคเอกชน ซึ่งโดนโทษจำคุกระหว่าง 4 – 32 ปี รวมถึงปรับเงินบริษัทเอกชนในสัญญาอีก 3 ราย คือ บ.สยามอินดิก้า 1 ล้านบาท บ.กีธา พร็อพเพอร์ตี้ 25,000 บาท และ น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร ลูกสาวเสี่ยเปี๋ยง 40,000 บาท พร้อมให้ บ.สยามอินดิก้า กับ น.ส.ธันยพร ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกับกระทรวงการคลัง จำนวนกว่า 1 พัน 2 ร้อยล้านบาท
ให้ บจก.สยามอินดิก้า เสี่ยเปี๋ยง นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ และนายนิมล หรือโจ รักดี คนสนิทเสี่ยเปี๋ยง ร่วมกันชดใช้กระทรวงการคลัง เป็นเงินจำนวนกว่า 1 หมื่น 6 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5% ต่อปี
ส่วนบรรยากาศ บริเวณด้านหลังศาลฎีกาฯ มีกลุ่มสื่อมวลชนจากหลายสำนักเฝ้าติดตามการอ่านคำพิพากษาของศาลอย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้ามาภายในบริเวณศาล และให้อยู่ที่บริเวณริมคลองหลอดเท่านั้น
รวมทั้งมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร ทางทีมข่าวพีพีทีวีจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ศาลฯพิพากษาคุก 72 ปี “หมอโด่ง” เลขาฯ “บุญทรง” ปมจำนำข้าว