โจมตี !! โรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ ทำราคาน้ำมันดิบพุ่ง
สหรัฐฯ ชี้อิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย หลังจากเจ้าชายอับดุลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ออกมาแถลงแสดงความเชื่อมั่นว่า ปริมาณน้ำมันที่จะส่งให้ลูกค้าในเดือนนี้และเดือนหน้าจะเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือล่าช้า เพราะซาอุฯยังมีน้ำมันคงคลังมหาศาล
ขณะนี้ บริษัทอารามโก รัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย สามารถขายน้ำมันให้กับผู้ซื้อได้ในระดับปกติแล้วและสามารถฟื้นกำลังการผลิตที่สูญเสียไปจากเหตุโจมตีได้แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ เบื้องต้น คาดว่าการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้
ท่าทีดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่มีแหล่งผลิตในทะเลเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในราคาอ้างอิงหลัก ปรับตัวลดลงทันทีเกือบ 7 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดิบตลาดเวสต์เท็กซัสที่ปรับตัวลดลง 5.5 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ นาย ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย เพื่อแสดงหลักฐานที่ยืนยันว่า อิหร่านคือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงหารือมาตรการในการตอบโต้
โดยทีมสืบสวนของสหรัฐฯ เชื่อว่าจุดปล่อยโดรนที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ ฐานทัพของอิหร่าน ที่อยู่ใกล้พรมแดนอิรัก เบื้องต้น คาดว่าสหรัฐฯจะแสดงหลักฐานต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในสัปดาห์หน้าด้วย