สำนวนจาก ป.ป.ช.ถูกส่งมาถึงมือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา คือสำนวนที่ ป.ป.ช.รับมาจาก ป.ป.ท.ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชุดที่ควบคุมตัวบิลลี่ ในฐานครอบครองน้ำผึ้งป่า ไม่ได้ส่งตัวบิลลี่ไปดำเนินคดีกับตำรวจ
5 ปี “บิลลี่ พอละจี” สุดท้ายคือ “ฆาตกรรม”
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำนวนที่ส่งมามีรายละเอียดเยอะ ที่สามารถเชื่อมโยงกับคดีได้ จึงต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะให้พนักงานสอบสวนของดีเอสไอ หลายคนช่วยกัยกันดูให้รอบคอบ
ซึ่งการประชุมวันนี้ บอกได้ว่าคดีคืบหน้าไปมากกว่า 80% แล้ว แต่ยังต้องไปสอบพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกมากกว่า 20 ปาก ซึ่งยังไม่ใช่เจ้าหน้าที่อุทยานชุดที่ควบคุมตัวบิลลี่ไว้ในวันที่ 17 เม.ย. 2557 วันที่บิลลี่หายตัวไป
ส่วนกระดูกมนุษย์อีก 8 ชิ้น ที่ระบุในบริเวณเดียวกันกับที่พบถังน้ำมัน 200 ลิตร และชิ้นส่วนกะโหลกที่ตรวจพบว่าเป็นของบิลลี่ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งกำลังเร่งตรวจอยู่ และยังไม่มีรายงานการพบวัตถุพยานอื่นที่สำคัญ เช่น รถจักรยานยนต์ของบิลลี่ ย่าม กล้องถ่ายรูป กระเป๋าเป้ ซึ่ง ดีเอสไอ ให้ชุดปฏิบัติการในพื้นที่ตามหาอยู่
ในวันพฤหัสที่ 10 ต.ค.นี้ พ.ต.ท.กรวัชร์ กับ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอจะลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกครั้ง โดยจะใช้เฮลิคอปเตอร์ดูภาพมุมสูง โดยเฉพาะเส้นทางเข้าออกต่างๆ เพื่อนำไปเชื่อมโยงประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วจากพื้นที่ด้านล่าง
พบโครงกระดูกยัดถังในอช.แก่งกระจาน คาดโยงคดีบิลลี่
ประวัติ “บิลลี่-พอละจี” แห่งใจแผ่นดิน