พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในระบบของ สตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพบชื่อชายคนดังกล่าวเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) เวลา 06.35 น.ด้วยเที่ยวบิน CX616 ปลายทาง ฮ่องกงโดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายยืนยันการเดินทาง
แม่เสี่ยหมื่นล้านเปิดใจอับอายกับพฤติกรรมลูกชาย
การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ตามกฎหมาย ชายที่อ้างตัวเป็นเสี่ยหมื่นล้านสามารถอยู่ฮ่องกงได้ 30 วัน จากนั้นต้องเดินทางออก ส่วนจะเดินทางกลับประเทศไทย หรือไปประเทศที่ 3 นั้นไม่สามารถยืนยันได้ หาก ตม.ได้รับการประสานในการควบคุมตัว หรือมีหมายจับ ก็สามรถควบคุมตัวได้แต่ในขณะนี้ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความดำเนินคดีใด ๆ
สำหรับประเด็นเรื่องการหลอกแต่งงานและจดทะเบียนสมรสแล้วมีการก่อหนี้สินขึ้นจะต้องรับผิดชอบร่วมกันหรือไม่นั้น นายนิติธร แก้วโต นายความ ให้ข้อมูลว่า การใช้หนี้สมรสหรือภายหลังสมรส แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ
1.หนี้สินที่เกิดก่อนการสมรส ส่วนนี้ไม่ต้องร่วมกันชดใช้
2.หนี้สินระหว่างที่แต่งงาน ที่เกิดจากการแต่งงานหรือกิจการของครอบครัว ส่วนนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ยกเว้นเป็นหนี้สินที่มาจากการโกง หรือหลอกลวงมา คู่สมรสไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ
3.หนี้สินหลังจากหย่า หากทั้ง 2 ฝ่าย จดทะเบียนหย่า ก็ไม่ต้องร่วมกันชดใช้เช่นกัน
นายนิติธร กล่าวอีกว่า หนี้ที่เกิดระหว่างแต่งงานสามารถฟ้องให้ฝ่ายชายมารับผิดชอบร่วมกันได้ เพราะมีความผิดทางกฏหมายแพ่ง แต่หากมีผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันหลายคนแนะนำให้รวมกลุ่มเข้าแจ้งความให้ปากคำเพราะการมีพยานหลายคน จะสามารถระบุได้ว่าพฤติการณ์ของชายรายนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งเป็นคดีอาญา
ผบช.สตม. เผย เสี่ยท็อปหมื่นล้าน ออกนอกประเทศแล้ว
แม่พริตตี้สาว เชื่อ เสี่ยกำมะลอ 2 หมื่นล้าน เจตนาหลอกลูกสาวแต่งงาน จนเป็นหนี้
สาวถูกชายอ้างเป็นเสี่ย 2 หมื่นล้าน หลอกแต่งงานเป็นหนี้ 3.5 ล้าน
