หลังจากคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) ออกมาตั้งข้อสังเกตกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาประกาศว่า กองทุนบำนาญชราภาพของประกันสังคมยังมั่นคง ไม่เป็นไปตามข่าวว่า เงินจะหมดในอีก 15 ปี แต่ต้องมองอนาคตด้วยว่า ควรมีการปรับปรุงเพื่อให้กองทุนดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหา และกองทุนประกันสังคมเคยศึกษาว่า ทางออกคือ อาจเลื่อนอายุรับเงินบำนาญจาก 55 ปีเป็น 60 ปี และอาจเพิ่มเงินสะสมขึ้น ซึ่งขอคัดค้าน แต่ขอให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้การดำเนินการมีความอิสระ และมั่นคงยิ่งขึ้น
ส่อหมด! เครือข่ายแรงงานชี้ “หม่อมเต่า” ส่งสัญญาณแปลก หวั่นเงินบำนาญถังแตก
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2562 ที่สำนักงานประกันสังคม นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรก และได้มอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าฟัง เนื่องจากเป็นการภายใน
นายทศพล กล่าวภายหลังการมอบนโยบายฯ ว่า ตนเข้ามาทำงานจะทำตามนโยบายของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการขับเคลื่อนองค์กรประกันสังคมให้เป็นที่พึ่งของผู้ประกันตนและนายจ้างอย่างแท้จริง อย่างเรื่องการนำเงินกองทุนไปลงทุนก็จะดำเนินการต่อ บนพื้นฐานของงานของความเสี่ยงต่ำ จึงไม่ต้องกังวล
สปส.โต้ปมถังแตก โชว์ตัวเลขกองทุน 1.6 ล้านล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วเสถียรภาพของกองทุนบำนาญชราภาพกว่า 1.8 ล้านล้านบาท เป็นอย่างไร มีความเสี่ยงเงินหมดในอีก 15 ปีหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประกันสังคมขึ้นมา ได้มีการศึกษาเพื่อให้กองทุนเกิดความมั่นคง โดยสิ่งหนึ่งที่ดำเนินการคือ มีการขยายการลงทุนภายใต้ภาวะที่ไม่เสี่ยง ภาวะที่มีความมั่นคง แต่ในระยะต่อมาเรามีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการที่จะให้ผู้ประกันตนได้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ดังนั้น จึงมีการศึกษาอยู่เสมอเพื่อให้เกิดความมั่นคงกับกองทุน สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะใช้ระยะเวลาอีกยาวนานที่กองทุนจะลดลง สิ่งสำคัญตอนนี้คือ จะต้องทำให้เกิดทางเลือกในการพัฒนาให้กองทุนเกิดความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า เรื่องการขับเคลื่อนเรื่องการขยายเพดานส่งเงินสมทบที่สปส. อยู่ระหว่างการดำเนินการนั้น นายทศพล กล่าวว่า ตนจะให้หน่วยงานที่ทำอยู่แล้วก็ดำเนินการต่อ ด้วยการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้