เปิดขบวนการช่วยเหลือ 3 ผู้ต้องหาแหกห้องคุมขังศาลพัทยา
พบปฏิบัติการแหกห้องควบคุมศาลพัทยาหลบหนี ใช้รถ 3 คัน
เมื่อวันที่ (7 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ของกลางที่ตำรวจยึดมาได้และนำมาแถลงข่าวในวันนี้ ประกอบด้วย เสื้อผ้าของผู้ต้องหาขณะก่อเหตุ, อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, โซ่ตรวนผู้ต้องหา และ รถยนต์ 5 คันที่ใช้ในการหลบหนี โดยพล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนได้ทั้งหมดแล้ว
มีผู้เกี่ยวข้องรวม 13 ราย คือ นักโทษที่หลบหนีการควบคุมของศาลจังหวัดพัทยา 3 คน ได้แก่ นายหน่อย นายบาร์ท และ น.ส.อ้อม ส่วนอีก 10 คน เป็นผู้ช่วยเหลือในการหลบหนี ได้แก่ นายมด นายแม็ก น.ส.หนิง น.ส.ฝน น.ส.แพร น.ส.แนน น.ส.ฟาง น.ส.เร็น นายดุก และนายบิ๊ก ทั้งหมดเป็นเครือญาตและคนใกล้ชิดของนายหน่อยซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว
สำหรับกระบวนหลบหนี นายมดเป็นผู้ลักลอบนำอาวุธปืนและมีดเข้าไปให้นายหน่อยระหว่างเข้าเยี่ยมที่ห้องคุมขัง ศาลจังหวัดพัทยา ก่อนที่นายหน่อยจะใช้ปืนที่ได้มา เล็งไปที่ตำรวจเพื่อบังคับให้ส่งกุญแจห้องคุมขังให้ เมื่อตำรวจไม่ยิมยอม นายบาร์ท จึงใช้มีดทำร้ายตำรวจ จากนั้น นายหน่อยได้ใช้อาวุธปืนยิง 1 นัด แต่กระสุนไม่ถูกใคร ก่อนที่ผู้ต้องขังทั้ง 3 คนจะวิ่งหลบหนีไปทางประตูด้านหน้าศาลจังหวัดพัทยา
สำหรับกระบวนหลบหนี นายมดเป็นผู้ลักลอบนำอาวุธปืนและมีดเข้าไปให้นายหน่อยระหว่างเข้าเยี่ยมที่ห้องคุมขัง ศาลจังหวัดพัทยา ก่อนที่นายหน่อยจะใช้ปืนที่ได้มา เล็งไปที่ตำรวจเพื่อบังคับให้ส่งกุญแจห้องคุมขังให้ เมื่อตำรวจไม่ยิมยอม นายบาร์ท จึงใช้มีดทำร้ายตำรวจ จากนั้น นายหน่อยได้ใช้อาวุธปืนยิง 1 นัด แต่กระสุนไม่ถูกใคร ก่อนที่ผู้ต้องขังทั้ง 3 คนจะวิ่งหลบหนีไปทางประตูด้านหน้าศาลจังหวัดพัทยา และขึ้นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊ก สีบรอนซ์ ที่ น.ส.แนน แฟนนายหน่อย ขับมาจอดรออยู่หลบหนีไปพร้อมกัน โดยมีรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอน-ทอง ขับตามไป จนกระทั่งมาถึงเขตพื้นที่ ต.บ่อวิน ผู้ต้องขังได้จอดรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ ทิ้งไว้ ก่อนนายแม๊ก และนายมดจะใช้คีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวนของผู้ต้องขังออก ส่วน น.ส.หนิง ได้นำชุดเสื้อผ้ามาให้ผู้ต้องขังเปลี่ยน
จากนั้นผู้ต้องขังทั้ง 3 คน น.ส.หนิง และน.ส.แนน ได้เปลี่ยนไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นมิราจสีขาว เมื่อมาถึงวัดหลวงปู่ฮก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ทั้งหมดได้เปลี่ยนมาขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์สีดำที่มีนายดุกขับมารอรับ และและเมื่อมาถึง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายบาร์ทและน.ส.อ้อม ได้แยกไปขึ้นรถฮอนด้าซิตี้ ก่อนทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปยัง จ.สระแก้ว
พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า กระบวนการหลบหนีเริ่มมาจากนายหน่อยและเครือญาติ ทีวางแผนหลบหนีมากว่า1เดือน โดยนายหน่อยไปรู้จักกับนายบาร์ท และ น.ส.อ้อม ที่เรือนจำ จึงหลบหนีออกมาด้วยกัน โดยเงินที่ใช้ในการหลบหนีอยู่ในหลักหมื่นบาทเท่านั้น เป็นเงินของนายหน่อยและนายบาร์ท ไม่ได้มีการว่าจ้างหลักล้านบาทตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่นายมดสามารถนำอาวุธมีดและปืนเข้าไปถึงตัวผู้ต้องหาได้น่าจะมาจากความบกพร่องในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ภายหลังจากการแถลงข่าวนายหน่อยได้ตะโกนออกมาจากห้องควบคุมตัวในชั้น2 ของสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาระบุว่าไม่ได้กระทำผิดในคดียาเสพติดที่ถูกควบคุมตัวไว้ตอนแรก แต่ถูกกลั่นแกล้งและใส่ร้าย
ขณะที่ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา ระบุว่า ที่ผู้ต้องหาตะโกนออกมาเป็นเพราะความเครียด แต่ยืนยันไม่มีใครกลั่นแกล้ง โดยนายหน่อยและผู้ต้องหาที่หลบหนี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ ,โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลโดยใช้กำลังประทาร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
ส่วนผู้มีส่วนร่วมในขบวนการหลบหนีทั้ง 10 คน ถูกแจ้งข้อหา ซ่องโจร ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและอาวุธมีดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,ร่วมกันพาอาวุธปืนและอาวุธมีดไปในทางเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันกระทำโดยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของอัยการ ของพนักงานสอบสวนหรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหลุดพ้นจากการคุมขังไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน ซึ่งตำรวจเตรียมนำผู้ต้องหาทั้ง 13 รายไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้
