วันที่ 13 พ.ย. 2562 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเอาผิดผู้ก่อเหตุในโรงพยาบาล ว่า เรื่องนี้ทางโรงพยาบาล และกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้เสียหาย แต่เราไม่ได้มีหน้าที่จับกุม ปราบปรามคนที่ก่อความไม่สงบ สิ่งที่กระทรวงทำได้คือการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษผู้บุกรุกห้องฉุกเฉิน และสร้างความวุ่นวายก่อความไม่สงบ ทั้งนี้ ย้ำว่าไม่ว่าจะทะเลาะอะไรกันมา ทุกอย่างต้องจบที่หน้าโรงพยาบาล จะเอาเข้ามาในโรงพยาบาลไม่ได้ ไม่ต้องมานั่งหาว่าใครผิดใครถูก สมควรหรือไม่สมควร ซึ่งเวลาตนพูดอะไรแรงๆ ออกไปก็มาบอกว่าพูดแบบไม่มีวุฒิภาวะ แต่คนเข้ามาตีกันในบ้าน ใครจะเย็นไหว มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลย จะตีกันหรืออะไรก็แล้วตาม ต้องรู้ว่าอยากจะตีกันข้างนอกก็ตีไป มาที่โรงพยาบาลเพื่อมารักษา อยู่ฝ่ายไหนเรารักษาหมด ไม่ใช่ว่าตามเข้ามาตีกันในนี้
เปิดเหตุความรุนแรงใน รพ. ปี 62 สูงสุด 26 ครั้ง
เมื่อถามว่าต้องเพิ่มมาตรการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่มหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอะไรแล้ว เพราะเป็นจิตสำนึก จะมาตีกันอะไรในโรงพยาบาล หรือห้องฉุกเฉิน คนไข้ คนที่อยู่ในพื้นที่โรงพยาบาลเยอะแยะ ทำความเดือดร้อนข้างนอกยังไม่พอหรือ ยังเข้ามาวุ่นวายในสถานพยาบาลอีก อย่างนี้ขาดจิตสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่อยากจะบอกว่าขาดความเป็นมนุษย์
“โรงพยาบาลเป็นที่รักษา คนเจ็บคนป่วยจะให้ผมจ้างยามมาและแนะนำให้ติดกระบองไฟฟ้าอย่างนั้นหรือ แล้วลองรปภ.ของผมเอากระบองไฟฟ้าไปฟาดคนที่ก่อความไม่สงบ ผมก็โดนอีก ซึ่งไม่ใช่ ต้องรู้ว่าที่โรงพยาบาลเป็นสถานที่คนมารักษาพยาบาล มาทำให้เกิดการหายเจ็บ หายป่วย ไม่ใช่สถานที่มาเอาเรื่องเอาราว หรือมาตีกัน ส่วนที่มีการก่อเหตุต้องมีการแจ้งความแน่นอน โดยแจ้งความในเรื่องการก่อเหตุ ความไม่สงบในสถานที่ราชการ มาทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย ขัดขวางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ แพทย์พยาบาลที่กำลังให้การช่วยเหลือผู้ป่วย ไม่ได้มาร้องทุกข์กล้าวโทษแทนคู่กรณี” นายอนุทิน กล่าว และว่าการป้องกันเป็นหน้าที่กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องมาดูแลความสงบเรียบร้อยของโรงพยาบาล
เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสข่าวว่าพอมีเหตุตีกันในโรงพยาบาลครั้งหนึ่งกระทรวงก็ออกมาขู่ แต่ยังไม่เห็นคนก่อเหตุได้รับการลงโทษอย่างแท้จริง ส่วนหนึ่งเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล และนักการเมืองในพื้นที่เข้ามาเจรจายอมความ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่มีการเจรจา ไม่มีการยอมความอย่างแน่นอน เราชัดเจนเรื่องนโยบายความปลอดภัย มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัดว่าการก่อเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ ถ้าใครยอมความจะมีความผิดตามมาตรา 157 เรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
รมช.สธ.ลั่นคนทะเลาะวิวาทในรพ. ไม่ยอมความ จี้เพิ่มโทษกว่าเหตุปกติ