โล่งอก! ผลตรวจผู้ป่วยมาไทย 4 รายไม่พบเชื้อไวรัสอู่ฮั่น


โดย PPTV Online

เผยแพร่




สถาบันบำราศนราดูร เผยผลตรวจไม่พบเชื้อไวรัสอู่ฮั่นในเด็กชาวจีน 3 ขวบให้กลับบ้านแล้ว ส่วนอีก 2 รายเบื้องต้นไม่พบ แต่ขอตรวจซ้ำ ขณะที่รายรักษารพ.เอกชนไม่ใช่เชื้ออันตรายเช่นกัน

ความคืบหน้ากรณีกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พบผู้ป่วยจำนวน 4 ราย ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยเข้ารักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูรจำนวน 3 ราย และอีก 1 รายรักษาตัวที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งนั้น  

สุวรรณภูมิ ติดเครื่องวัดไข้อัตโนมัติ คัดกรองผู้โดยสาร ป้องกันเชื้อปอดอักเสบ

‘อนุทิน’ ลงตรวจสุวรรณภูมิบ่ายนี้!! หลังโรคปอดอักเสบจากจีนรุนแรง

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวถึงกรณีมีผู้ป่วยจำนวน 3 ราย ว่า ขณะนี้ทางสถาบันบำราศนราดูรได้มีการอนุญาตให้ผู้ป่วยอายุ 3 ขวบ เพศชาย ชาวจีนกลับบ้านได้แล้ว เนื่องจากเด็กมีอาการดีขึ้น และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้ง ผลออกมาก็ไม่พบเชื้อปอดอักเสบ แต่ก็ยังจะมีการสอบถามและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง  ส่วนนักศึกษาที่เหลืออีก 2  รายนั้นอาการดีขึ้นไม่มีภาวะปอดอักเสบ รอเพียงผลทางห้องปฏิบัติการรอบที่  2 เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในวันที่ 8 มกราคม 2563 นี้  ส่วนผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนนั้น จากการสอบถามพบว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจึงให้การรักษาตามอาการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วทั้ง 3 รายเบื้องต้นไม่พบเชื้อที่ขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในเมืองอูฮั่นใช่หรือไม่ นพ.อภิชาต กล่าวว่า ใช่ ไม่พบเชื่อ โดยเด็กชายอายุ 3 ขวบ พบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H3N2 ส่วนอีก 2 รายนั้น รายแรกพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์C ส่วนอีกรายพบเชื้อแบคทีเรีย

 นพ.อภิชาต กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยอีก 2 รายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเข้าใจถึงระบบการดูแลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง นอกจากนี้ จากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มาตรวจเยี่ยมห้องความดันเป็นลบ สำหรับแยกการดูแลผู้ป่วยโรคติดต่อร้ายแรงนั้น ซึ่งได้กำชับให้ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่  โดยห้องกักกันโรคมีทั้งหมด 15 ห้อง มีความพร้อม เนื่องจากในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนกับห้องพิเศษทุกประการผู้ป่วยจึงไม่มีภาวะเครียดใดๆ

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เบื้องต้นทางการจีนรายงานผลการตรวจเชื้อโรคพบว่าไม่ใช่โรคซาร์ส ไม่ใช่ไข้หวัดนก และไม่ใช่โรคเมอร์ส แต่ที่แน่ๆ คือมีการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างชัดเจนอีกครั้งเพื่อรายงานไปยังองค์การอนามัยโลกเพื่อพิจารณายกระดับการดูแลควบคุม ส่วนของไทย กรณีที่มีผู้ป่วยหลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นและอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศฯ 3 ราย รายแรกเป็นเด็กชายวัย 3 ขวบชาวจีน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อซาร์ส ไม่พบเมอร์ส ไม่พบเชื้ออันตรายอื่นๆ ส่วนเชื้อที่ทำให้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจคือ AH3N2 เคสนี้อาการดีขึ้นโดยลำดับ อยู่กับมารดาในห้องแยกโรค 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า มาตรการรับมือกับโรคติดต่อของไทยมี 3 ระบบ คือ 1. ช่องทางเข้าออกประเทศทั้งทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ อย่างผู้ป่วย 2 ราย เราตรวจจับได้ที่สนามบิน อีก 1 รายเดินทางเข้ามารับการรักษาเองเพราะทราบข่าวที่นายอนุทินไปตรวจความพร้อมที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2. มาตรการของสถานพยาบาลทั่วประเทศ ทั้งรพ.รัฐ และเอกชน หากมีผู้ป่วยต้องสงสัย ต้องรายงานเข้าระบบ และ 3.ชุมชน โดยสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ ต้องมีการให้ข่าวสารคนในชุมชน ให้ช่วยกันดูอาการหากสงสัยให้แจ้งมายังกรมควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่เรามีการออกแบบระบบมีการวางแผนทำให้ ได้ผลที่ดี ซึ่งที่เขาประเมินว่าบ้านเรามีระบบความมั่นคงสุขภาพที่ดีระดับ 6 ของโลกไม่ใช่เรื่องมั่ว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่าขณะนี้เราเริ่มแจ้งรพ.ทั่วประเทศ แต่ที่ต้องชื่นชมคือรพ.รามาธิบดี ที่ประสานเข้ามาก่อนเลยว่าพร้อมให้การช่วยเหลือในการควบคุมป้องกันโรคเหล่านี้ และเริ่มมีรพ.หลายแห่งทยอยแจ้งเข้ามา นอกจากนี้เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการประสานความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้เข้าไปช่วยกันตรวจสอบเที่ยวบินที่จะเข้ามาเมืองไทยด้วย เพราะอีกไม่นานจะจะเริ่มเข้าเทศกาลตรุษจีนแล้วซึ่งมีทั้งคนจีนมาที่ไทย และคนไทยไปที่จีนด้วย 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ