ศาลปกครองสูงสุด ได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท ในวันที่ 10 ม.ค. 2563 เวลา 10 นาฬิกา หลังบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กรณีมีมติตัดสิทธิไม่รับซองข้อเสนอบางรายการ
ศาลปกครอง นัดชี้ชะตา “ซีพียื่นเอกสารช้า 9 นาที” ประมูลเมืองการบิน
โดยให้เหตุผลว่า ทำผิดเงื่อนไขสัญญาการเข้าร่วมประมูล โดยในวันที่ 10 เม.ย. 2562 มายื่นข้อเสนอยังสถานที่รับซอง เกินเวลาที่กำหนดไว้ภายใน 15.00 น.ช้าไป 9 นาที
คดีนี้ ในการพิจารณาคดีครั้งแรกของศาลปกครองสูงสุด ในวันที่ 7 พ.ย. 2562 ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างให้เหตุผลและมีมุมมองที่แตกต่างกัน โดยบริษัทธนโฮลดิ้ง ให้เหตุผลในเรื่องการก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับรัฐมากกว่าการยึดถือเวลาเพียง 9 นาที
“ศึกชิงอู่ตะเภา” ทร.ห่วงทำลายระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ขณะที่ทางกองทัพเรือ ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ก็เป็นห่วงเรื่องการทำลายระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และอาจทำให้เกิดค่านิยมใหม่ว่า ต่อไปใครจะมายื่นซองเวลาไหนก็ได้ หากให้ผลตอบแทนกับรัฐสูง รวมทั้งอาจเกิดค่านิยมใหม่ว่า แม้ทำผิดกฎ แต่มีเงินจ้างทนายเก่ง และให้ประโยชน์รัฐมากก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้งาน เพราะเงินชดเชยความผิดได้
ซึ่งหากย้อน 5 คดี คำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด กรณีการยื่นซองประมูลไม่ทันเวลา กับกรมทางหลวงชนบท 2 คดี กรุงเทพมหานคร 2 คดี และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1 คดี ศาลปกครองสูงสุด ได้พิจารณา เห็นว่า การที่ผู้แทนมายื่นเอกสารหรือซองประมูลไม่ทันเวลา เกิดจากความบกพร่อง ไม่มีความรอบคอบ ที่สำคัญไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ถือเป็นความประมาทเลินเล่อ แม้บางคดีไม่ทันเวลาเพียงแค่ 39 วินาทีเท่านั้น
ทร.แจงคืนสิทธิ"ซีพี ยื่นประมูลช้า 9 นาที" กระทบระบบจัดซื้อจัดจ้าง
มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มองว่า ใครก็ตามที่จะค้าขายหรือทำธุรกิจกับภาครัฐ ทุกคนต้องเคารพกติกาที่ทำกันมาช้านาน และทุกคนก็รู้ดี โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทในเครือซีพี ก็เคยประมูลงานกับรัฐมาจำนวนมาก จึงรู้ขั้นตอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความเคารพ
พร้อมระบุว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้กับเอกชนรายนี้ชนะ จะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐของประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบจัดซื้อจัดจ้างครั้งใหญ่ของประเทศ เกิดความเสียหายอย่างมากแก่ประเทศ แต่หากเกิดศาลยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้นให้ทุกอย่างจะเป็นไปตามกติกา กรอบเวลาเดิม จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในตัวกฎหมายที่เป็นบรรทัดฐานของสังคม ซึ่งทุกโครงการในอีอีซี ยังได้นำข้อตกลงคุณธรรมเข้ามาใช้ด้วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นธรรม รวมถึงการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
หลายฝ่ายจึงจับตาการพิจารณาคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อว่าคำตัดสินในคดีนี้ ที่มีการยื่นเอกสารประมูลช้าไป 9 นาที จะเป็นอีกหนึ่งบรรทัดฐาน ในการยื่นประมูลงานภาครัฐในอนาคต
ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคดีซีพียื่นประมูล “เมืองการบิน” ช้า 9 นาที