เมื่อวันที่ (14 ม.ค.63) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาชี้แจงหลังโพสต์เฟสบุ๊ก เปิดเผยรายชื่อ 18 พรรคการเมือง ที่มีการกู้เงินเพื่อใช้ทำกิจกรรมทางการเมือง โดยนายสมชัยระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคการเมือง มีการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจกรรมพรรคเป็นปกติ พร้อมอ้างข้อมูลในเอกสารงบการเงินของพรรคการเมืองที่ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ตรวจสอบในปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 -31ธันวาคม2561 ก่อนนำเข้าที่ประชุมใหญ่ของพรรคภายในเดือนเมษายนของปีถัดไป
“ปิยบุตร” ยัน ไม่มีกม.ห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน
นายสมชัย ระบุว่า เมื่อผ่านที่ประชุมใหญ่แล้วจะนำส่งให้ กกต.พิจารณาภายใน 30 วัน ซึ่งหมายความว่า กกต.ได้รับเอกสารงบทางการเงินจากทุกพรรคการเมืองภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม จากนั้น กกต.จะประกาศเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยผ่านการเซ็นรับรองประกาศจากนายทะเบียน ซึ่งขณะนั้นคือ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.คนปัจจุบัน
อดีต กกต. กล่าวต่อว่า เงินกู้ยืมเป็นเงินผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นเงินผลประโยชน์อื่นใดที่ได้มาโดยมิชอบ ตามมาตรา 72 ตามที่ กกต.กล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ และนายทะเบียนที่เป็นผู้เซ็นรับรอง ต้องรับรู้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว ต้องพบว่ามีพรรคการเมืองทั้งหมด 18 พรรค ที่กู้ยืมเงินลักษณะเดียวกัน และต้องนำข้อมูลทั้งหมดเสนอ กกต.ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบ 18 พรรคการเมือง ไม่ใช่เลือกดำเนินคดีกับพรรคอนาคตใหม่แต่เพียงพรรคเดียว
สำหรับพรรคการเมือง 18 พรรค ที่ปรากฏรายการเงินกู้ในเอกสารงบการเงิน ที่นายสมชัยเปิดเผยรายชื่อ เช่น รวมพลังประชาชาติไทย ชาติพัฒนา และพลังท้องถิ่นไท เป็นต้น
1. พรรคพลังศรัทธา มีรายการเงินกู้ระยะสั้น 300,000 บาท
2. พรรคพลังชาติไทย เงินกู้ระยะสั้น 113,988 บาท
3. พรรคไทยธรรม เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 1,000 บาท
4. พรรครวมพลังประชาชาติไทย เงินกู้จากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกัน 5,000,000 บาท
5. พรรครวมใจไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 45,697.86 บาท
6. พรรคอนาคตใหม่ เงินกู้จากหัวหน้าพรรค 161,200,000 บาท
7. พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย เงินกู้ยืมระยะสั้น 226,000 บาท
8. พรรคพลังไทยรักชาติ เงินกู้ยืมหัวหน้าพรรค 85,000 บาท
9. พรรคเมืองไทยของเรา เงินกู้ยืมระยะสั้น 542,750 บาท
10. พรรคเพื่อชีวิตใหม่ เงินกู้ยืมระยะยาว 50,000 บาท
11. พรรคเงินเดือนประชาชน เงินกู้ยืมจากกรรมการ 822,183.70 บาท
12. พรรคไทรักธรรม เงินกู้ยืม กรรมการบริหารพรรค 4,376,000 บาท
13. พรรคพลังประชาธิปไตย เงินยืมจากหัวหน้าพรรค 5,584,290 บาท
14. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เงินกู้ยืม 542,125 บาท
15. พรรคพลังท้องถิ่นไท เงินกู้ยืมระยะสั้น 1,427,000 บาท
16. พรรคไทยรักษาชาติ เงินยืมจากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค 1,738,868.92 บาท
17. พรรคประชาธิปไตยใหม่ เงินกู้ยืมระยะสั้น 4,216,600 บาท
18. พรรคชาติพัฒนา เงินกู้ยืม 2,000,000 บาท
ส่วนพรรคใหญ่ที่ไม่ปรากฏว่ามีการกู้ยืมเงินคือ พรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์และ พรรคเสรีรวมไทย
“ธนาธร” เชื่อให้พรรคกู้เงินไม่ผิดกฎหมาย
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาแถลงข่าว กรณี กกต. เตรียมหาสาเหตุที่ทำให้เอกสารการสอบสวนคดียุบพรรคในชั้นคณะอนุกรรมการของ กกต. หลุดออกมา ว่า การชี้แจงของ กกต. แสดงให้เห็นว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริง เพราะถ้าไม่ใช่ของจริงทาง กกต. ต้องปฏิเสธ ไม่ใช่ไล่ดำเนินการเอาผิดคนปล่อยเอกสาร พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ กกต.เรียกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และเหรัญญิกของพรรคอนาคตใหม่ไปให้ข้อมูลตามมาตรา 66 ที่ว่าด้วยการที่บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง โดยห้ามมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท แต่กลับใช้คำให้การมาเป็นข้ออ้างในการยุบพรรค ตามมาตรา 72 ทั้งที่ไม่เคยเรียกให้ไปชี้แจงกรณีตามมาตรา 72
นายปิยบุตร ยืนยันด้วยว่า การกู้เงินทำกิจกรรมทางการเมือง มีเอกสารสัญญาการกู้ยืม การเสียดอกเบี้ย และการชดใช้หนี้บางส่วนอย่างชัดเจน ทุกพรรคการเมือง สามารถกู้ยืมเงินได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ และถ้าพรรคอนาคตใหม่มีความผิดในเรื่องนี้ พรรคการเมืองอื่น ๆ ก็ต้องถูกดำเนินการด้วยหรือไม่ ถ้าไม่อยากให้พรรคการเมืองกู้เงิน ก็ควรเขียนกฎหมายให้ชัดเจนกว่านี้
