วันที่ 20 ม.ค. 2563 นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยในปี 2563 ยังต้องพบกับความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ เช่น ความตึงเครียดระหว่างประเทศ สงครามการค้า นโยบายของสถาบันการเงินในแต่ละประเทศ ล้วนเป็นประเด็นที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรของแต่ละประเทศ
"สมคิด" ยกระดับไทยเป็น "ศูนย์กลางการระดมทุนของอาเซียน"
ในส่วนของประเทศไทยก็ต้องวิเคราะห์ว่าผลกระทบจากต่างประเทศต่อเศรษฐกิจไทยจะกระทบอุตสาหกรรมใด อย่างไรบ้าง ไปจนถึงความแน่นอนในการทำธุรกิจ ผลกระทบจากการเมืองต่างๆ ฉะนั้นหัวใจสำคัญของการลงทุนในปีนี้ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องคำนึงถึง 3 ข้อสำคัญ ได้แก่ ปิดความเสี่ยง, เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม และทำในเวลาที่ถูกต้อง
โดยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังได้เน้นย้ำอีกว่า ในช่วงที่เป็นวิกฤตบางครั้งจะมีผลกระทบที่เกินปกติ หรือ โอเวอร์รีแอคชั่น อยากให้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้เป็นโอกาสในการสะสมหุ้นดีในราคาถูก เช่น ถ้านักลงทุนสามารถซื้อหุ้นที่มีปันผลสูงๆได้ มีความสามารถทำกำไรได้ ในช่วงระดับราคาที่ต่ำกว่าควรจะเป็นได้เช่นกัน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนเอง ฉะนั้นทุกครั้งที่มีวิกฤต ก็ย่อมมีโอกาสอยู่ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการ สินเชื่อ จีเอสบี เอสเอ็มอี เอ็กซ์ตร้า ลิควิดิตี วงเงิน 50,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเป็นสินเชื่อสำหรับเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้กับสถาบันการเงินอื่น และมีภาระต้องผ่อนชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงินเป็นรายเดือน ให้เข้ามากู้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น โดยสามารถแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ได้ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.2563
ทั้งนี้ มีเงื่อนไขธุรกิจที่ขอกู้ต้องเป็นลูกค้าผ่อนชำระหนี้ปกติมาไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่ต้องมีหลักประกันใดๆ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อนี้ได้ 100% ดอกเบี้ยเท่ากับสถาบันการเงินเดิม ต่ำสุดไม่เกิน เอ็มแอลอาร์ -1% ต่อปี
เช็ก “เศรษฐกิจโลก” ก่อนปักหมุดลงทุนกับกองทุนบัวหลวง
ตลท.ยืนยัน รร.นานาชาติ “เอสไอเอสบี” เข้าเทรด mai ไม่ผิดหลักเกณฑ์ บจ .