สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค.58) หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯยังคงเร่งกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งในเขตซานตา บาร์บารา ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากเมื่อวานนี้ เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลออกจากท่อส่งน้ำมันใต้ดินลงสู่ทะเล
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบปริมาณทั้งหมดของน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้ แต่คาดว่าอาจสูงกว่า 400,000 ลิตร ซึ่งในจำนวนนี้ เกือบ 80,000 ลิตร ได้ถูกกระแสน้ำพัดออกสู่มหาสมุทรแล้ว
เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่ง เผย ทันทีที่ได้รับแจ้ง ได้ลงพื้นที่เพื่อหยุดการรั่วไหลของน้ำมัน แต่น้ำมันบางส่วนที่รั่วไหลลงทะเล ได้พัดเข้าฝั่ง เปรอะเปื้อนชายหาดและโขดหินเป็นระยะทางยาวกว่า 9 ไมล์
นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ทะเลเคราะห์ร้ายที่โดนผลกระทบไปด้วย ซึ่งนักอนุรักษ์เกรงว่านก และปลาวาฬ อาจได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้
ด้านผู้ที่อยู่ใกล้เคียงชายหาดเล่าว่า คราบน้ำมันส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวนไปทั่ว โดยกลิ่นคล้ายเวลาทำถนนใหม่
ทั้งนี้ ท่อส่งน้ำมันที่เกิดการรั่วไหลเป็นของบริษัท Plains All American Pipeline LP ซึ่งออกมาประกาศว่าจะจ่ายค่าเสียหายและรับผิดชอบในการทำความสะอาดคราบน้ำมันรั่วในครั้งนี้เอง
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในปี 1969 เคยเกิดเหตุน้ำมันรั่วที่ชายหาดแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้นกและสัตว์ทะเลตายเป็นหลายพันตัว