ศาลอาญาฯชี้ "ธวัชชัย อนุกูล" ตับแตกเพราะ "ถูกผู้อื่นทำให้ตาย"
เมื่อค่ำวานนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์เฟซบุ๊กนำเอกสารการพิจารณาของศาลในคดีนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง ซึ่งเสียชีวิตปริศนาในห้องขัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2559 มาเปิดเผย โดยนายอัจฉริยะได้อ่านข้อความในเอกสารของศาลระบุว่า ผู้ตายถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกตับแตก เลือดออกในช่องท้อง นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตว่า ในการขึ้นไปถึงห้องขังที่นายธวัชชัยอยู่คือชั้น 6 ต้องใช้กุญแจถึง 6-7 ดอก และต้องสแกนมือ ที่สำคัญกล้องวงจรปิดเสียได้อย่างไรทั้งที่เป็นหน่วยงานระดับชาติ นายอัจฉริยะยังตั้งคำถามไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร
นายอัจฉริยะบอกว่า คดีนี้ผ่านมา 4 ปีแล้วแต่กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ วันนี้จึงต้องออกมาพูดและจะนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้เกี่ยวข้อง 3 คน ต่อพนักงานสอบสวน ฐานร่วมกันฆ่าโดยไต่ตรองไว้ก่อน
นายอัจฉริยะยังตั้งคำถามถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าไม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร แต่กลับกันคดีอื่น ๆ เช่น คดีบิลลี่ คดีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น รู้หมด แต่คดีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ทำไมไม่ตอบสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น รู้หรือไม่ว่ามีลูกน้องคนหนึ่งต้องไปบวชหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังตั้งคำถามไปถึงกระทรวงยุติธรรมว่าอยู่กันได้อย่างไร และพร้อมถูกฟ้องกลับถ้ามั่นใจ
ด้าน สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เผยแพร่เอกสารผ่านเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรม เมื่อวานนี้ ระบุว่า จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แพร่ภาพสด ผ่านเพจชมรมฯ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมผู้ต้องหารายหนึ่ง เนื่องจากรู้ข้อมูลคดีทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม และมีการซื้อสื่อเพื่อปิดปากไม่ให้นำเสนอข่าวดังกล่าว รวมถึงกรณีทนายความได้มาใช้ข้อมูลของกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ไปเยี่ยมนักโทษที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และมีทนายความที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด มาตรา 100/2
กระทรวงยุติธรรม ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน และมีกรรมการ จำนวน 6 คน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการกระทำดังกล่าวกระทบต่อภารกิจในการอำนวยความยุติธรรมของกระทรวงยุติธรรม เมื่อการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วหากข้อมูลเป็นจริง กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่หากข้อความดังกล่าวบิดเบือน สร้างความเสื่อมเสีย กระทรวงยุติธรรมจำเป็นต้องใช้สิทธิดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวอ้างในข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมขอยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม หากพบเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา
ญาติพร้อมแจ้งความหลังศาลชี้ "ธวัชชัย" ถูกผู้อื่นทำให้ตาย
