รวบหนุ่มฝรั่งเศสเตรียมลอบสังหาร "มาครง" ในงานวันชาติ
ฝรั่งเศสประกาศชัยชนะหลังต่อสู้กับ โควิด-19
การชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวที่ยังคงลุกลามทั้งในสหรัฐฯ และหลายประเทศทั่วโลก นำไปสู่การรื้อทำลายรูปปั้นและอนุสาวรีย์ของบรรดานักสำรวจ และพ่อค้าทาส รวมถึงยังมีกระแสเรียกร้องให้ปฏิเสธคุณูปการของบุคคลเหล่านี้ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการล่าอาณานิคม การกดขี่ และการเหยียดสีผิว
ล่าสุด เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แถลงจุดยืนผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ยืนยันว่า รัฐบาลฝรั่งเศสต่อต้านการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ แต่จะไม่มีวันลบประวัติศาสตร์ของตัวเอง ด้วยการรื้อถอน หรือโค่นรูปปั้นและอนุสาวรีย์เหมือนที่หลายๆประเทศทำ ชาวฝรั่งเศสจะเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ และจะไม่ลืมคุณูปการของบุคคลสำคัญเหล่านี้
ท่าทีของผู้นำฝรั่งเศสมีขึ้น หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากยังคงออกมาแสดงพลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของ
ท่าทีของผู้นำฝรั่งเศสมีขึ้น หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากยังคงออกมาแสดงพลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีในสหรัฐฯ ซึ่งการชุมนุมบานปลายเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ
ส่วนที่สหรัฐฯแม้บรรยากาศการชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิว และการใช้ความรุนแรงของตำรวจในหลายพื้นที่จะคลี่คลายไปแล้ว แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อประชาชนส่วนหนึ่งออกมารวมตัวปิดถนนหลวงระหว่างรัฐ และจุดไฟเผาร้านค้า สืบเนื่องจากกรณีของนายเรย์ชาร์ด บรูกส์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน วัย 27 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ยิงวิสามัญฆาตกรรม ระหว่างพยายามจับกุม
รายงานการสืบสวน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีชายนอนหลับอยู่ภายในรถยนต์ บริเวณลานจอดรถของร้าน เวนดีส์ ซึ่งเป็นร้านอาหารฟาสฟู้ดแบบไดรฟ์ทรู จนทำให้กีดขวางการให้บริการ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ แต่นายบรูกส์พยายามขัดขืนการจับกุม และต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังผลตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ไม่ผ่าน
สุดท้าย เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้ปืนยิงใส่บรูกส์หลายนัด สอดคล้องกับผลการชันสูตรที่พบว่า นายบรูกส์ถูกยิงเข้าที่หลัง 2 ครั้ง
เบื้องต้น คาดว่าอัยการจะตั้งข้อหาตำรวจที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้ ขณะที่ นางเอริกา ชีลส์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองแอตแลนตา ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
