พม.คุ้มครองพยาน หลังเครือญาติชำเราด.ญ. ได้ประกันตัว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ความคืบหน้ากรณีเด็กหญิงวัย12 ถูกเครือญาติ 7 คน ล่วงละเมิดทางเพศ นานกว่า 2 ปี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุดมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวเบื้องหลังครอบครัวทั้งฝั่งเหยื่อ และ ฝั่งผู้ก่อเหตุ ซึ่งพบว่าอยู่อาศัยในชุมชนสีแดงตามสถานะของรัฐ ขณะที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ให้ความคุ้มครองพยาน หลังหนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ได้สิทธิ์ประกันตัว

ญาติ 7 คน ล่วงละเมิดทางเพศด.ญ.ป.6 นานกว่า 2 ปี

ฝากขังญาติ 5คน กระทำชำเราเด็กหญิงวัย12 นาน 2 ปี

วันนี้ 16 มิ.ย. 2563 เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี  ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เด็กหญิงวัย 12  ถูกญาติ 7คน ล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อติดตามสภาพความเป็นอยู่ของญาติทั้งฝั่งผู้เสียหาย และ ฝั่งผู้ต้องหา รวมถึงเยาวชน 2 คนที่ถูกกล่าวหา เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมาย พร้อมให้ความมั่นใจกับพยานในคดีนี้ที่ยังกังวลถึงความปลอดภัย หลังหนึ่งในผู้ต้องหาได้สิทธิ์ประกันตัว ซึ่งพยานอยู่ระหว่างตัดสินใจที่ย้ายอออกจากพื้นที่ชั่วคราว และจะอยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่

ขณะเดียวกันอัยการจังหวัดคดีศาลแขวง ก็ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเช่นกัน โดยอัยการจังหวัดคดีศาลแขวง เปิดเผยว่า วันนี้ทีมอัยการลงพื้นที่เพื่อต้องการดูความเป็นอยู่ที่แท้จริงว่าเยาวชนที่ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมอย่างไร เพื่อจะได้ประเมินข้อเท็จจริงหลังจากฟังคำให้การ ซึ่งก่อนจะเข้าพื้นที่ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นมาตรการที่จะดูแลเด็ก รวมถึงกรณีหากพยานถูกข่มขู่ด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง อาจมีการพิจารณาขอถอนประกันผู้ต้องหา

นอกจากความเคลื่อนไหวด้านความช่วยเหลือ ทีมข่าวได้รับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเบื้องหลังครอบครัวของผู้ต้องหาและผู้เสียหาย ที่มีปัญหามานาน และถือเป็นปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดเหตุสลดครั้งนี้ขึ้น 

โดยทีมข่าวคุยกับบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต้องหา เขาเล่าว่าเบื้องหลังของผู้ต้องหารายหนึ่งที่มีอายุ 21 ปี และเป็นคนแรกที่ผู้เสียหายให้การว่าก่อเหตุล่วงละเมิดเธอ ตั้งแต่อยู่ ป.4 (ตอนนี้ ป.6) ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นคนที่มีพฤติกรรมมีปัญหาตั้งแต่ ป.4 มีประวัติเสพยาเสพติด และมีปัญหาในครอบครัว ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นลูกเขยของป้าผู้เสียหาย อายุ 32 ปี เคยมีประวัติคดีร้ายแรง และคนในครอบครัวเคยมีประวัติพรากผู้เยาว์เช่นกัน

ที่น่าสนใจคือ เยาวชนอายุ 11 ปี ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว แหล่งข่าวเล่าว่า หลายครั้งที่เด็กคนนี้ร่วมวงดูหนังAV กับคนเป็นพ่อ และสูบบุหรี่ เสพยาเสพติด ซึ่งกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบโดยไม่เคยถูกห้ามปราม

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ยืนยันว่า ชุมชนที่เกิดเหตุเป็นลักษณะชุมชนที่อยู่รวมกันเป็นเครือญาติหลายหลังคาเรือน เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอยู่ในเป้าหมายการแก้ไขปัญหาของพม. อยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือเป็นพื้นที่สีแดงที่ถูกชี้เป้าจากท้องถิ่นเรื่องปัญหายาเสพติด และความยากจน ซึ่งที่ผ่านมาเคยลงพื้นที่มาติดตามปัญหาหลายครั้ง แต่สิ่งที่ถูกสะท้อนออกมาเป็นเรื่องปากท้อง และไม่เคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี มองว่าแม้ชุมชนที่ส่วนใหญ่มีการอาศัยอยู่ของญาติพี่น้องจำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีความปลอดภัยเสมอไป เพราะจากสถิติการก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ มักเกิดจากบุคคลในครอบครัวและเครือญาติ ขณะเดียวกันคนในครอบครัวและเครือญาติ คือคนที่คอยปกปิดเรื่องพวกนี้ให้เป็นความลับด้วย

 บุษยาฏฐ์ มนต์คล้ำ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ำว่าชุมชนที่มีความอ่อนแอ ครอบครัวที่มีปัญหา และเด็กที่เกิดจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ มีโอกาสตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ และอีกด้านก็อาจตกเป็นผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศได้ด้วยเช่นเดียวกัน

โดยในแนวทางการทำงานของภาครัฐ ในการป้องกันปัญหานี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสุพรรณบุรี มองว่าต้องเริ่มจากผู้นำชุมชน ที่ใส่ใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ลงพื้นที่ติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกันกับคนในชุมชน และกรณีที่เกิดขึ้นจนสามารถคุมตัวคนทำผิดได้ ก็มาจากการทำงานของชุมชน และท้องถิ่น

ข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือสังคมกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2560 ถึง 29 ส.ค. 2561 มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศจำนวน 419 คน ในจำนวนนี้ถูกกระทำจากคนในครอบครัวจำนวน 151 คน และจากบุคคลภายนอก 268 คน

“กัญจนา” ชี้ ปัญหาข่มขืนมาจากสถาบันครอบครัว

สอดคล้องกับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เมื่อวานลงพื้นที่ติดตามกรณีนี้  โดยมองว่ารากของปัญหานี้มาจากสถาบันครอบครัว สอดคล้องกับข้อมูลที่ผู้ก่อเหตุข่มขืนหลายครั้งมาจากครอบครัวที่ขาดความรักความเอาใจใส่ ทำให้เด็กรู้สึกขาดแล้วหันไปพึ่งพาปัจจัยในทางที่ผิด เช่น ยาเสพติด หรือ บางครั้งก็มาจากครอบครัวที่กระทำรุนแรงจนได้รับแบบอย่างที่ไม่ดี นำมาสู่การเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง

ส่วนการเยียวยาเด็กหลังเกิดเหตุ น.ส.กัญจนา มองว่า สำหรับผู้เสียหาย สังคมต้องไม่ไปตอกย้ำว่านี่เป็นตราบาป เพราะผู้เสียหายไม่ได้ผิดอะไร ขณะที่การเยียวยาผู้ก่อเหตุที่ยังเป็นเด็ก ก็ต้องดูว่าเป็นการกระทำตามผู้ใหญ่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำจนเป็นนิสัย ซึ่งหากเป็นอย่างแรกสังคมก็ควรให้โอกาสเพราะเด็กยังมีโอกาสเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในอนาคต โดยปัจจุบันก็มีหน่วยงานที่มีวิธีการในการปรับพฤติกรรมเด็กและเยาวชนที่หลงผิด อย่างเช่น บ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งเชื่อว่าทุกคนสามารถกลับตัวได้

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ