ตามล่า 'บอส อยู่วิทยา' ตร.จี้ประเทศเป้าหมาย แจงยิบลงโทษ 7 ตำรวจทำคดีหลวม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รองโฆษกตร.แจงละเอียด ภาคทัณฑ์ กักยาม 7 ตำรวจ พัวพันทำคดี "บอส อยู่วิทยา" หละหลวม ตามป.ป.ช.ชี้มูล ยืนยันตามจับบอส อายุความอีก 7 ปี จี้ตำรวจสากล - ประเทศเป้าหมายขอข้อมูลคุมตัวส่งไทย

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ มติพิจารณาโทษทางวินัย ข้าราชการตำรวจ 7 นาย อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ไปจนถึงอดีตพนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ กรณีทำคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทธุรกิจกระทิงแดง ไม่รัดกุม และนายวรยุทธ หลบหนีจนถึงขณะนี้

ป.ป.ช. ฟันวินัย "รองผบช.น. - ผกก." ชี้โทษทำคดี "บอส" หลวม ปล่อยลอยนวล

ตร.สากล สิงคโปร์ ยัน “บอส” หนีออกจากประเทศแล้ว

ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่าคดีที่อัยการสั่งฟ้อง นายวรยุทธ ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตนั้น  จะหมดในปี พ.ศ 2570 ขณะนี้อยู่ในกระบวนการติดตามตัวมายื่นฟ้องต่อศาล โดยเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการติดตามตัว

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังบางประเทศ ไม่ขอเปิดเผยว่าประเทศใด แต่เป็นประเทศที่เราพบความเคลื่อนไหวของนายวรยุทธ เพื่อสอบถามข้อมูลของนายวรยุทธ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ขณะเดียวกันก็ทวงถามจากอินเตอร์โพล หรือตำรวจสากล ที่มีประเทศสมาชิก 194 ประเทศ เพื่อขอให้ติดตามข้อมูลให้ช่วยตามตัว คุมตัว อย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่ได้รับคำตอบเช่นกัน

"ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นิ่งนอนใจในการติดตามตัว โอกาสที่จะได้ตัว หรือไม่ได้เป็นไปได้ทั้งนั้น เหมือนกับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปต่างประเทศรายอื่นๆ บางรายก็ได้ตัว บางรายก็ไม่ได้ เป็นเรื่องของประเทศนั้นๆว่าจะติดตามตัวให้หรือไม่ เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยืนยันว่าพยายามติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

ส่วนกรณีป.ปช.มีมติชี้มูลความผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีนั้น รองโฆษกตร.กล่าวว่า ตร.มีคำสั่งที่ 228/2559 ลงวันที่ 22 เมษายน 2559 สืบสวนข้อเท็จจริง  ข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจนครบาล 5 รวม 11 คน กรณีถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในคดีจราจร ที่ 632/2555 ลงวันที่ 2555 ของสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และ กรณี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส  ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในคดีจราจร โดยสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวเกิดความบกพร่องหลายประการ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือไม่ อย่างไร

คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้ส่งสำนวนดังกล่าวไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ไต่สวนข้อเท็จจริง พร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ถูกกล่าวหา ในประเด็น สอบสวนช่วยเหลือ นายวรยุทธ   ผู้ต้องหา ไม่ให้ถูกดำเนินคดี ในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุรา, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อให้ได้ตัวมาส่งอัยการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีและไม่ได้ตัวฟ้องภายในอายุความ

เมื่อ 29 ต.ค. 2562 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติว่าการกระทำของ พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว, พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน, พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย, พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม, ว่าที่ พ.ต.อ.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล และ พ.ต.อ.วิลดล ทับทิมดี  มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เพื่อให้เกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ   ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐาน คำวินิจฉัยเพื่อให้ดำเนินการทางวินัย นั้น

เมื่อ 31 มี.ค. 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่ง ที่ 167/2563 เรื่อง ลงโทษกักยาม ภาคทัณฑ์ และยุติเรื่อง โดย อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 98 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 89 ประกอบ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยอำนาจการลงโทษข้าราชการตำรวจ อัตราโทษ และ การลงโทษ ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง หรือตัดเงินเดือน พ.ศ.2547 และ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มแรกลงโทษภาคทัณฑ์ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน, พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม,  ว่าที่ พ.ต.อ.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล  กลุ่ม 2ลงโทษกักยาม ว่า พ.ต.อ.วิลดล ทับทิมดี มีกำหนด 3 วัน

กลุ่ม 3 แยกเรื่องไว้พิจารณา เนื่องจากการพิจารณากำหนดโทษ พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย ซึ่งได้เกษียณอายุราชการแล้ว เมื่อ 1 ต.ค. 2559 และ พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว เกษียณอายุราชการแล้ว เมื่อ 1 ต.ค. 2556 แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางวินัย เมื่อ 29 ต.ค. 2562 โดย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้เมื่อ 6 เม.ย. 2562 และ ไม่มีบทยกเว้นหรือบทเฉพาะกาล ที่บัญญัติให้มีผลใช้บังคับย้อนหลัง ถือได้ว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงได้แยกเรื่องการพิจารณาไว้แล้วส่วนหนึ่ง

กลุ่ม 4 ยุติเรื่องในส่วน พ.ต.อ.อัครวินต์ สุคนธวิท, พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์, ว่าที่ พ.ต.ท.กิติศักดิ์ พรสงวนทรัพย์ และ พ.ต.ต.หญิงสิริภา ศรีทรัพย์ ไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 4 ราย ได้ร่วมกระทำตามที่ถูกกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล จึงตกไป

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กร ต้นธารของการอำนวยความยุติธรรม ทั้งการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมืองและการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม มีความตระหนักและให้ความสำคัญถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งในประเด็นข้อสงสัย กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ถึงความบกพร่อง ย่อหย่อน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับญาติ ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในประเด็นที่เกิดขึ้น ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตลอดจนดำเนินการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน”

ไร้เงา "ทายาทกระทิงแดง" ฟังคำสั่งคดีขับรถชนตำรวจตาย

“ดอน” ไม่รู้หมายจับ “บอส อยู่วิทยา” หายจากเว็บอินเตอร์โพล

อัยการ เผย “บอส อยู่วิทยา” อีก 7 ปี หลุดทุกคดี ชี้ รอ ตร.จับตัวกลับมา

 

 

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ