นี่เป็นสภาพบ้านของ นางสาวภาราภรณ์ ทองจินดา อายุ 26 ปี และครอบครัว ที่ตั้งอยู่ภายในสวนยางพารา ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว แยกแบ่งห้องเป็น 2 ห้อง ห้องหนึ่งเก็บอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ทำสวน และอีกห้อง เป็นห้องนอนของ 6 ชีวิต คือพ่อแม่และลูก 4 คน กว้างยาวเพียง 3x3 เมตร
นางสาวภาราภรณ์ เล่าว่า มีอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราให้กับเจ้าของสวน มีลูก 4 คน คือ ลูกชายวัย 1คน ลูกสาว3 คน วันเกิดเหตุ ได้พาลูกสาวคนกลางไปห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง ในอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร เพื่อไปดูชุดนักเรียน ทั้งที่มีเงินติดตัวเพียง 200บาท เพราะต้องการให้ลูกมีชุดนักเรียนใส่ไปโรงเรียน จึงตัดสินใจขโมย ก่อนจะถูกจับได้ โชคดีมีพลเมืองดี ใจดีจ่ายค่าชุดนักเรียนให้เป็นเงิน 1,200บาท ทำให้ไม่ถูกดำเนินคดี นางสาวภาราภรณ์ บอกว่า รู้สึกละอายใจ เสียใจ ที่ก่อเหตุขึ้น และขอโทษที่ขโมยของ ขณะนั้นตัดสินใจก่อเหตุเพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ
ด้านนายพญา บุญแก้ว ซึ่งเป็นสามีของนางสาวภาราภรณ์ บอกว่า ครอบครัวไม่มีเงินเลยไม่เคยรู้ว่า ภรรยาจะตัดสินใจไปขโมยชุดนักเรียนให้ลูก ในฐานะหัวหน้าครอบครัวก็รู้สึกเสียใจมาก ที่ดูแลครอบครัวได้ไม่ดีจนทำให้ภรรยาต้องไปก่อเหตุแบบนี้
เบื้องต้น สภาองค์การบริหารส่วนตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพรและศูนย์คนไร้ที่พึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมมอบของและเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่ง ด้านนางภาราภรณ์ก็สัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก
ผู้ปกครองห่วง เปิดเทอม คุมโควิด -19 ได้หรือไม่
