งานวิจัยพบไวรัสโคโรนาเวอร์ชันใหม่แพร่กระจายเร็วกว่า แต่ไม่ทำให้ป่วยหนัก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การศึกษาพบหลักฐานที่ชัดเจนว่า ไวรัสโควิด-19 เวอร์ชันใหม่ซึ่งแพร่กระจายจากยุโรปไปยังสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มที่จะทำให้คนติดเชื้อง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำให้มีอาการรุนแรงเท่าเดิม

เอริกา โอลล์มันน์ ซาไฟร์ (Erica Ollmann Saphire) จากสถาบันภูมิคุ้มกันวิทยา La Jolla และสมาคมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หนึ่งในผู้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-19 กล่าวว่า “เชื้อไวรัสโคโรนาตอนนี้เป็นรูปแบบที่โดดเด่นในด้านการทำให้ผู้คนติดเชื้อ”

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 3 ก.ค. 63

การระบาดครั้งใหม่ของโควิด-19 ในจีนแสดงสัญญาณว่าไวรัสกำลังเปลี่ยนไป

การศึกษาดังกล่าว ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Cell ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับลำดับพันธุกรรม แสดงให้เห็นว่าไวรัสที่กลายพันธุ์กำลังเข้าแทนที่เชื้อไวรัสโคโรนาแบบเดิม

ตอนนี้ทีมไม่เพียงแต่ตรวจสอบลำดับทางพันธุกรรมมากขึ้น แต่พวกเขายังทำการทดลองในคน สัตว์ และเซลล์ในจานทดลอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเวอร์ชันที่กลายพันธุ์นี้มีอัตราการแพร่เชื้อมากกว่า

การกลายพันธุ์มีผลต่อโครงสร้างโปรตีนของไวรัส ตอนนี้นักวิจัยกำลังตรวจสอบเพื่อดูว่า มีผลกระทบต่อการคิดค้นวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ นักวิจัยเรียกการกลายพันธุ์ใหม่นี้ว่า G614 และพวกเขาแสดงให้เห็นว่ามันได้แทนที่ไวรัสรุ่นแรกเกือบทั้งหมดที่แพร่กระจายในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อว่า D614

เบตต์ คอร์เบอร์ (Bette Korber) นักชีววิทยาเชิงทฤษฎีจากห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Los Alamos และเพื่อนร่วมงานเขียนไว้ในรายงานของพวกเขาว่า “ข้อมูลการติดตามจากทั่วโลกของเราแสดงให้เห็นว่าตัวกลายพันธุ์ G614 สามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่า D614 ... เราจึงตีความว่า ไวรัสน่าจะแพร่กระจายลุกลามได้งายขึ้นและเร็วขึ้น ... แต่น่าสนใจตรงที่เราไม่พบหลักฐานว่า G614 ส่งผลกระทบต่อความรุนแรงของโรคโควิด-19

ทีมทดสอบตัวอย่างที่นำมาจากผู้ป่วยทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา จัดลำดับจีโนม แล้วนำมาเปรียบเทียบ ช่วยให้พวกเขาวาดแผนที่การแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาทั้งสองรูปแบบ

"จนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2020 ตัวกลายพันธุ์ G614 นั้นหาได้ยากนอกยุโรป แต่เมื่อถึงปลายเดือนมีนาคม มันกลับเพิ่มขึ้นทั่วทั้งโลก" พวกเขาเขียน

ไวรัสโคโรนาเวอร์ชันใหม่นี้สามารถแบ่งตัวทวีคูณได้เร็วขึ้นในระบบทางเดินหายใจส่วนบน คือ จมูก ไซนัส และลำคอ

แต่จากการทดสอบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1,000 คนที่โรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร พบว่า ผู้ที่ติดเชื้อเวอร์ชันใหม่นั้น ไม่ได้มีอาการเลวร้ายกว่าผู้ที่ได้รับเชื้อดั้งเดิม

เดวิด มอนเตฟิออร์ (David Montefiore) จาก Duke University ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาวัคซีนเอดส์ บอกว่า “ผลลัพธ์ทั้งหมดบ่งชี้ว่า ไวรัสรูปแบบ G สามารถแพร่กระจายและทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่ารูปแบบ D ประมาณ 3-9 เท่า”

คอร์เบอร์บอกว่า "การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า ไวรัสโคโรนารูปแบบใหม่นั้นอาจจะถ่ายทอดจากคนสู่คนได้ง่ายกว่าแบบดั้งเดิม แต่ไม่ว่าข้อสรุปนั้นจะได้รับการยืนยันแล้วหรือไม่ก็ตาม ในท้ายที่สุด การปฏิบัติตามแนวทางเดิมก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว นั่นคือการใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม”

ซาไฟร์เสริมว่า นักวิจัยจะยังคงจับตาดูการกลายพันธุ์อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 “เราอาจหลบเลี่ยงหรือรับมือการกลายพันธุ์นี้ได้ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการกลายพันธุ์อื่น ๆ หลังจากนี้ ... เรายังต้องระวังตัวกันต่อไป”

WHO เตรียมส่งทีมไปจีน สืบหาต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

พบ “ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่” ในจีน

พบร่องรอยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสเปนตั้งแต่มีนาคม 2019

เรียบเรียงจาก CNN

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ