ฮ่องกง เริ่มใช้กม.ความมั่นคง จับกุมปชช.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติถูกบังคับใช้ในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการฮ่องกงเริ่มดำเนินการจับกุมผู้ประท้วงที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มีการให้อำนาจตำรวจมากขึ้น โดยให้สามารถจับกุมคนได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล

อังกฤษเสนอให้สัญชาติชาวฮ่องกง หากจีนใช้ กม.ความมั่นคง

ถึงแม้ว่านานาชาติกำลังหาทางใช้มาตรการคว่ำบาตรจีน แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ในเวลาที่จีนถือว่าเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ และท่ามกลางความสนใจที่มุ่งไปที่วิกฤตโรคระบาดโควิด-19

Tong Ying Kit วัย 23 ปี คือชาวฮ่องกงคนแรกที่ถูกจับในข้อหาก่อการร้ายและกบฏแบ่งแยกดินแดน ข้อหาที่ถูกระบุอยู่ในกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่จีนเพิ่งประกาศบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้าย หลังเขาขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งใส่กลุ่มตำรวจ พร้อมกับชูป้าย Liberate Hong Kong หรือ ปลดปล่อยฮ่องกงให้เป็นอิสระ ในช่วงที่มีการประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้มีตำรวจ 3 นายได้รับบาดเจ็บ

โดยนาย Tong ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่า เขาจะถูกลงโทษหนักเท่าใด หรือจะถูกส่งตัวไปจีนแผ่นดินใหญ่หรือไม่

กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ระบุว่า กิจกรรมทุกอย่างที่รัฐบาลมองว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง แบ่งแยกดินแดน หรือก่อการร้ายนั้น ผิดกฎหมายและสามารถถูกดำเนินคดีได้ทั้งหมด

กิจกรรมดังกล่าวจึงรวมไปถึงการกู่ร้องสโลแกนเรียกร้องอิสรภาพ หรือชูธงหรือป้ายที่มีข้อความไปในเชิงเรียกร้องอิสรภาพ แม้ว่ากิจกรรมนั้นจะเกิดขึ้นอย่างสันติก็ตาม

แคร์รี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเองก็ออกมาเตือนชาวฮ่องกงไม่ให้ทำผิดกฎหมายข้อนี้ เพราะผลที่ตามมานั้นร้ายแรง

นอกจากหน่วยข่าวกรอง หน่วยงานความมั่นคงที่จะถูกตั้งขึ้นเป็นพิเศษในฮ่องกงแล้ว กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ยังให้อำนาจกับตำรวจฮ่องกงเพิ่มในการจับกุมประชาชน นับเป็นอีกสิ่งที่กำลังเปลี่ยนชีวิตของชาวฮ่องกง

ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ให้อำนาจตำรวจเพิ่มขึ้น นั่นคือสามารถจับกุมประชาชนได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล มีอำนาจสั่งบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ นำเนื้อหาออก หรือยึดอุปกรณ์ได้ การเพิ่มอำนาจให้ตำรวจฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง

ก่อนหน้านี้ ภายใต้หลักการหนึ่งประเทศสองระบบ ตำรวจของฮ่องกงเป็นองค์กรอิสระ จีนแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถแทรกแซงได้

ระบบตำรวจของฮ่องกงก่อตั้งขึ้นช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ระบบตำรวจของฮ่องกงมักเป็นระบบที่ต่างประเทศยกเป็นกรณีศึกษา เพราะมีระบบที่ทำให้ต้องเป็น

กลางทางการเมือง ปลอดจากคอรัปชั่น ตำรวจของฮ่องกงได้เงินเดือนค่อนข้างสูง หากจบการศึกษาระดับมัธยมได้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 96,000 บาท ขณะที่จบมหาวิทยาลัยเงินเดือนเริ่มต้นที่ 170,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา เราเห็นตำรวจฮ่องกงใช้มาตรการปราบปรามผู้ประท้วงที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งการยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง ทำให้พวกเขาถูกประชาชนมองเป็นศัตรู

และการที่กฎหมายความมั่นคงให้อำนาจกับตำรวจเป็นสิ่งสะท้อนว่า การควบคุมฮ่องกงโดยจีนเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นได้สร้างบรรยากาศแห่งความหวั่นกลัว ล่าสุด โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองระบุว่า ชีวิตของเขาตกอยู่ในความเสี่ยง

นอกจากจีนจะเริ่มจับกุมผู้ประท้วงที่เข้าข่ายผิดกฎหมายความมั่นคงแล้ว อีกอย่างที่จีนทำคือกำจัดหนังสือมีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงบุกเข้าไปยังห้องสมุดสาธารณะและโรงเรียนต่างๆ เพื่อนำหนังสือหลายเล่มไปตรวจสอบเพื่อดูว่า มีเนื้อหาเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ที่ถือว่าผิดกฎหมายความมั่นคงหรือไม่
ตอนนี้มีหนังสืออย่างน้อย 9 เล่ม ที่ทางการประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และหนึ่งใน 9 เล่ม คือ หนังสือขอโจชัว หว่อง ที่พูดถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพในการพูด

การกวาดล้างหนังสือในฮ่องกง ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ประท้วงของจีน ตัดสินใจระดุมทุนเพื่อเก็บหนังสือ และรูปภาพเข้าสู่ระบบดิจิทัล

ตอนนี้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เงินบริจาคแล้วเกือบ 6 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากชาวฮ่องกงด้วยกันเองเป็นส่วนใหญ่ ไปจนถึงชาวสหรัฐฯ และแคนาดา

การเปลี่ยนแปลงในฮ่องกงทำให้หลายประเทศออกมาทักท้วงจีน โดยเฉพาะอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคมของฮ่องกงที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษประกาศว่า เตรียมปูทางให้ชาวฮ่องกงที่ถือสัญชาติอังกฤษร่วมขอสัญชาติอังกฤษได้

จีนออกมาประณามท่าทีของอังกฤษ โดยเอกอัครราชทูตของจีนประจำอังกฤษ ออกมาบอกว่า การที่อังกฤษเสนอสัญชาติให้ชาวฮ่องกง เป็นการแทรกแซงกิจการภายในที่น่ารังเกียจ และยังเตือนให้อังกฤษระวังถึงผลกระทบที่ตามมา

ด้าน โดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษออกมาตอบโต้ว่า นี่ไม่ใช่การแทรกแซง แต่เป็นเพราะจีนผิดสัญญาที่ให้ไว้กับอังกฤษ

ไม่ใช่เพียงแค่มหาอำนาจ โซเชียลมีเดียและแอพพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ อย่าง เฟซบุ๊ค วอทส์แอพ กูเกิ้ล ทวิตเตอร์ และเทเลแกรม ต่างออกมาประกาศว่า พวกเขาหยุดให้ความร่วมมือกับตำรวจฮ่องกงในการให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูล

ในการประท้วงปีที่แล้ว ชาวฮ่องกงรุ่นใหม่มักใช้วอทส์แอพและเทเลแกรมในการติดต่อกัน และรวมพลจัดการประท้วง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวจนตำรวจติดตามได้ยาก

ตอนนี้มีเพียงแอปเปิ้ลกับไมโครซอฟต์ที่ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมา ซึ่งทั้งแอปเปิ้ลและไมโครซอฟต์ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่เฟซบุ๊ค และวอทส์แอพนั้นถูกบล็อคในจีน

ด้านสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ก่อนหน้ามีมติเป็นเอกฉันท์เตรียมคว่ำบาตรธนาคารในสหรัฐฯ ที่ทำธุรกรรมกับเจ้าหน้าที่หรือบริษัทของจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ ไปจนถึงจำกัดการเข้าถึงการซื้อขายสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามผ่านร่างกฎหมายนี้หรือไม่

ตร.ฮ่องกงยิงแก๊สน้ำตาสกัดม็อบต้าน กม.ความมั่นคง

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ