คดี "บอส กระทิงแดง" หรือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทธุรกิจเครือกระทิงแดง ก่อเหตุขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เป็นข่าวคึกโครมอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางการไทยยกเลิกทุกข้อกล่าวหา นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครือกระทิงแดง ที่ถูกกล่าวหาในคดีขับรถ ชนตำรวจสน.ทองหล่อ เสียชีวิตในปี2555
อัยการ เผย “บอส อยู่วิทยา” อีก 7 ปี หลุดทุกคดี ชี้ รอ ตร.จับตัวกลับมา
CNNอ้าง พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ระบุว่า เมื่อ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา อัยการได้พิจารณายกเลิกข้อกล่าวหาที่มีต่อนายวรยุทธ หรือบอส และได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกข้อกล่าวไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของนายวรยุทธ
CNNระบุด้วยว่า ผู้สื่อข่าวได้เห็นจดหมายดังกล่าว ว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องขณะที่ผบ.ตร.มิได้เห็นแย้ง จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง เสนอศาลเพิกถอนหมายจับ แต่ไม่สามารถติดต่อผู้เกี่ยวข้องกับนายวรยุทธเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้
CNNรายงาน ส่วนคดีก่อนหน้านี้นั้นมีข้อมูลบ่งชี้ว่า นายวรยุทธเป็นผู้ขับรถซูเปอร์คาร์ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินคดีออกหมายจับ เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีและสิ้นอายุความไป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสำหรับนายวรยุทธหลบหนีไปจากประเทศไทยหลังได้รับการประกันตัว และเมื่อปี 2560 ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว AP ได้ติดตามไปพบนายวรยุทธที่บ้านพักแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนของอังกฤษ แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามใดๆ หลังจากนั้นมีกระแสทวงถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ได้รับคำตอบว่าหาตัวนายวรยุทธไม่พบ
จนกระทั่งวันที่ 27 มิ.ย.2563สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ข้อมูลว่า มีมติชี้มูลความผิดนายตำรวจ 5 นาย ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีสอบสวนช่วยเหลือนายวรยุทธ ทายาทเครือกระทิงแดง ไม่ให้ถูกดำเนินคดีขับรถขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด และไม่ดำเนินการออกหมายจับ เพื่อให้ได้ตัวมาส่งพนักงานอัยการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนี โดยตำรวจผู้ถูกชี้มูลความผิด ประกอบด้วย พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.น.5, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ, พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม, พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากูล และ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี
อย่างไรก็ตามจากรายงานสำนักข่าว ดังกล่าว มีรายงานว่ากรณีลงโทษตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุลงโทษภาคทัณฑ์ กักยามตำรวจที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ตามที่ป.ป.ช.ชี้ว่า สอบสวนช่วยเหลือ นายวรยุทธ ผู้ต้องหา ไม่ให้ถูกดำเนินคดี ในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุรา, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อให้ได้ตัวมาส่งอัยการฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีและไม่ได้ตัวฟ้องภายในอายุความ หลังป.ป.ช.ชี้มูลคดีนี้ตั้งแต่ปี เดือนตุลาคม ปี62แต่เพิ่งมีการเผยแพร่มติฯ
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุเมื่อ 1 กรกฎาคม 63ที่ผ่านมาว่าตำรวจไทยยังคงประสานประเทศต่างๆที่พบความเคลื่อนไหวของทายาทกระทิงแดงรายนี้ และประสานตำรวจสากลตามจับตัว"บอส อยู่วิทยา"
ตามล่า 'บอส อยู่วิทยา' ตร.จี้ประเทศเป้าหมาย แจงยิบลงโทษ 7 ตำรวจทำคดีหลวม
ขณะที่มีรายงานว่า ช่วงแรก หลังเกิดเหตุที่ "บอส ทายาทกระทิงแดง" ขับรถซูเปอร์คาร์ ด้วยความเร็วพุ่งชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปรามสน.ทองหล่อ ที่ขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อยู่จนร่างดาบตำรวจถูกลากไปไกลกว่า 200 เมตร เสียชีวิตอย่างอนาถ เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน2555
ตอนนั้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหา "บอส อยู่วิทยา" 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีนี้มีอายุความ 15 ปี สิ้นอายุความ ในเดือนห ก.ย.70
2. ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกชน หรือชนแล้วหนี อายุความ 5 ปี สิ้นสุดในก.ย. 60
3. ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อายุความ 1 ปี
4. ขับรถโดยขณะมึนเมา
และ5. ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ทั้ง2ข้อหาขาดอายุความไปแล้ว
ต่อมาในปี 2559 ตำรวจสรุปสำนวน ส่งอัยการสั่งฟ้องได้เพียง 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกชน หรือชนแล้วหนี อายุความ 5 ปี หรือวันที่ 3 ก.ย. 2560 ส่วนอีกข้อหาอื่นหมดอายุนั่นหมายความว่านายวรยุทธ เหลือข้อหาติดตัวเพียงขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่เหลืออายุความอีก7ปี
ขณะที่พี่ชายของดาบตำรวจวิเชียร ผู้เคราะห์ร้าย สัมภาษณ์พิเศษกับพีพีทีวีเมื่อเดือนมีนาคมปี2560 ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปี 2555 ครอบครัวได้รับเงินเยียวยาจากตระกูลธุรกิจกระทิงแดงมาเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท และค่าทำศพอีก 5 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องไม่ฟ้องร้องคดีทั้งทางแพ่งและอาญา หลังทางครอบครัวได้ยื่นขอไป 8 ล้านบาท โดยคิดจากอายุการทำงานที่เหลือของดาบตำรวจวิเชียร แต่คู่กรณีได้ขอต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท และยอมให้เพิ่มอีก 1 ล้านในภายหลังที่ทางครอบครัวยื่นข้อเสนอกลับไป
แม้จะไม่ได้จำนวนเงินตามที่ครอบครัวคิดว่าเป็นธรรม แต่สาเหตุที่ยอมรับเงื่อนไข เพราะไม่ต้องการให้กระบวนการยืดเยื้อ เหมือนกับคดีความที่กำลังเป็นอยู่
เปิดใจญาติเหยื่อทายาทกระทิงแดง ได้เยียวยา 3 ล้านบาท แลกไม่ฟ้องร้อง
อย่างไรก็ตามจากรายงานของCNN ดังกล่าว ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า การสั่งไม่ฟ้อง และยกเลิกหมายจับนั้นเป็นข้อหาที่หมดอายุความแล้ว ก่อนนี้ หรือรวมถึงข้อหาหลัก ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยหรือไม่!!
ไร้เงา "ทายาทกระทิงแดง" ฟังคำสั่งคดีขับรถชนตำรวจตาย
ขณะที่โฆษก ตร. "พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย" นัดแถลงข่าวในเวลา10.30น.วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ