เป็นที่ทราบดีว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างที่ไม่ใช่แค่เรื่องของโรคระบาดเท่านั้น แต่ผลที่เป็นลูกโซ่ตามมา ยังมีทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ ตลอดจนพฤติกรรมบางอย่างของคนที่เปลี่ยนไป เกิดเป็น ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New normal หนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว
ส่องแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ "เที่ยวปันสุข"
“ สถานการณ์โควิด-19 มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยแต่เกิดขึ้นทั่วโลก ในวิกฤตแบบนี้เราเห็นโอกาส เห็นบทเรียนที่จะปรับปรุงในการท่องเที่ยวของเรา ก้าวไปสู่ความยั่งยืน แข็งแรงในอนาคตให้ได้” นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวกับ นิวมีเดีย พีพีทีวี
เตือนที่พักฉวยโอกาสขึ้นราคาเที่ยวปันสุข รัฐบาลขู่ตัดสิทธิ์ 'เราเที่ยวด้วยกัน' ยอดจองทะลัก
ซึ่งในที่นี้หมายถึง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต้องมีภูมิต้านทาน ด้วยการนำเรื่องของสุขอนามัย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขมามาปรับใช้ทั้งหมด นอกจากนั้นแล้ว หากจะนิยาม พฤติกรรมนักท่องเที่ยวหลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. บอกว่าคือพฤติกรรมแบบ “BEST” ซึ่งตีความได้ว่า
B – Booking ภาพนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นหมู่คณะจะหายไป
ต่อไปจะไม่ได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ มีไกด์ถือธง เดินเข้าในแหล่งท่องเที่ยว หรือลูกทัวร์จำนวนมหาศาลเดินเข้าไปในที่พัก เข้าไปในร้านอาหาร เพราะทุกอย่างต้อง Booking หรือ จองก่อนล่วงหน้า ที่เห็นชัดเจนคือ การท่องเที่ยวในส่วนของ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้ระบบ QUEQ เพื่อควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว และสามารถควบคุมขีดความสามารถในการรองรับแต่ละพื้นที่ ทราบข้อมูลของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม แต่ละคนว่ามาจากที่ใด เพราะฉะนั้น การใช้เทคโนโลยีในการจองเข้ามา จะเป็นสิ่งที่ใช้ในการสกัดกั้นและกรองคนได้ที่ดีที่สุด
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าในช่วงที่เกิด โควิด-19 หลายหน่วยงานในพนักงานอยู่บ้านในรูปแบบ WORK FROM HOME แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ กลับมาฟื้นฟู สวยงาม จนมีคำกล่าวกันว่า ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติมีความสวยงามไม่แพ้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่ง“ในขณะที่คน WORK FROM HOME ธรรมชาติ WORK FROM HEART”
ดังนั้น คำถามท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยว คือ เมื่อคนกลับมาแล้วจะทำให้ธรรมชาติที่งดงามเหล่านั้น สูญสลายไปอีกหรือ ตัว E หรือ Environment ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น และ ททท.ได้ถอดบทเรียนจากธรรมชาตินี้ เพื่อมาส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบกระตุ้นและปลูกจิตสำนึกกับนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้ “การเดินทางของคุณกลายเป็นจุดทำลาย สิ่งแวดล้อม หรือธรรมชาติ “E” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องระมัดระวัง และใส่ใจนับจากนี้
1 ก.ค. นี้ เที่ยวอุทยานวิถีใหม่ สร้างความปลอดภัย ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ
ต่อมาคือ “S-Safety เรื่องสุขอนามัย”
พฤติกรรมในการเตรียมตัวเดินทางจะเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวจะระมัดระวังสุขภาพ พกและสวมใส่หน้ากากอนามัย ให้ความสำคัญกับการล้างมือหรือใช้เจลล้างมือ การกำหนดระยะห่าง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะยังคงเป็นอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีวัคซีน และไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นแต่ผู้ประกอบการเอง ก็ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
ดังนั้น การสร้างมาตรฐานเพื่อให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวและให้ผู้ประกอบการตื่นตัวในเรื่องนี้อยู่เสมอ ททท. จึงตั้งมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และภาคเอกชนเพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวควบคู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้มาใช้บริการหลังจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทาง โดยกิจการที่สามารถขอรับมาตรฐาน SHA แบ่งเป็น 10 ประเภทกิจการ ดังนี้
1. ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร
2. ประเภทโรงแรม/ที่พักและสถานที่จัดประชุม
3. ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว
4. ประเภทยานพาหนะ
5. ประเภทบริษัทนำเที่ยว
6. ประเภทสุขภาพและความงาม
7. ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
8. ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
9.ประเภทการจัดกิจกรรม การจัดประชุม (MICE) โรงละคร โรงมหรสพ
10. ประเภทร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้า อื่นๆ
ตัวสุดท้ายคือ “T Tecnology” เทคโนโลยีคัดกรองคน
ททท. เตรียมหารือโรงแรม ปมโก่งราคา "เราเที่ยวด้วยกัน"
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น อย่างการใช้ QueQ เข้าอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นอกจากนั้นยังมี แอพฯไทยชนะ ในทุกๆ สถานประกอบการรายใหญ่ รายย่อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าทริปในการเดินทางที่มีเทคโนโลยีเข้ามาจะสามารถเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจและมั่นใจว่าทริปในการเดินทางจะปลอดจากโรคภัย ไข้เจ็บ
เพราะฉะนั้น BEST คือ 4 ตัวสำคัญที่จะเป็นตัวเปลี่ยนพฤติกรรมในการเดินทางของนักท่องเที่ยวและเกิดเป็น New normal
7 New Normal ที่อาจได้เห็นในสังคมไทยในวันที่ โควิด-19 หายไป
