“ทนายอนันต์ชัย”ชี้ขับรถเร็ว-โคเคน ไม่ใช่หลักฐานใหม่คดีบอส


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เมื่อวานนี้คณะทำงานอัยการแถลงเสนอให้สั่งสอบคดี "บอส อยู่วิทยา" ใหม่ โดยมีการคำนวณความเร็วรถจาก อ.สธน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่าเป็นหลักฐานใหม่ในประเด็นความเร็วรถ 177กม./ชม. แถมฟ้องเพิ่มอีกคดีจากกรณีพบโคเคนในเลือดเพราะถือว่าผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด แต่ก็ยังมีนักกฎหมายที่มองต่างมุมว่าจริงๆแล้วทั้งความเร็วรถและการพบสารเสพติดไม่ใช่หลักฐานใหม่

'อำนวย' ฉะ 'อัยการ' โบ้ยผิดตำรวจ ชี้ต้องฟัน 'คนสั่งคดี' ถึงจะรื้อสำนวน 'บอส' ได้

ด่วน! อัยการสรุปสั่งคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตามกม.ซัดตำรวจชงสำนวน สั่งรื้อคดี 'โคเคน -ชนตำรวจตาย'

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นความเร็วของรถที่ อ.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยคำนวณได้ที่ 177 กม./ชม.  แต่ไม่ปรากฎในสำนวน และมีความเห็นบุคคลอื่นๆอีกว่า บอส ขับรถเร็วเกินกว่า 80 กม./ชม.และยาเสพติดโคเคนที่เคยสอบไว้แล้วแต่ไม่ได้แจ้งข้อหา 

ซึ่งทนายอนันต์ชัย ให้ความเห็นว่า ที่คณะทำงานอัยการฯแถลงด้วยความเคารพผมเห็นต่างครับว่าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ แต่เป็นพยานหลักฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว เป็นพยานหลักฐานที่บกพร่อง และความเห็นใหม่ครับ ไม่เข้าเงื่อนไข ป.วิ.อาญา มาตรา 147 ครับ เปรียบเสมือนพ่อครัว แกงส้ม ได้เตรียมเครื่องปรุงไว้ครบถ้วนแล้ว

แต่เวลาปรุงอาหาร ลืมใส่กะปิ น้ำปลา ปรุงรสเสร็จ ให้คนกิน กินไปแล้วปรากฎว่ามันไม่อร่อย เพราะลืมใส่กะปิ น้ำปลา เลยนำมาปรุงรสใหม่ กะปิ น้ำปลาที่เตรียมไว้ก็คือ เครื่องปรุงที่เตรียมไว้เดิมนั่นแหละครับ คนกินไม่อร่อยไปแล้ว

ส่วนข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ที่เป็นข้อหาหลักนั้น รองอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งไม่ฟ้องนายบอส  ท่ามกลางข้อสงสัยของสังคมไปแล้ว  ถือว่าอัยการได้วินิจฉัยเนื้อหาสาระแห่งคดี และมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนายบอสไปแล้ว  อัยการจะสั่งให้พนักงานสอบสวน ไปสอบสวนในข้อหานี้อีกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเดิมมิใช่พยานหลักฐานใหม่ในคดี ตาม ป. วิ. อาญา มาตรา 147

หากทำเช่นนั้นถือว่าการสอบสวนไม่ชอบ ผลก็คืออัยการไม่มีอำนาจฟ้องครับ พร้อมอ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 4802/2559 และทิ้งท้ายว่า ผมไม่ก้าวล่วงคำแถลงของคณะทำงานอัยการว่าได้สอบและแถลงโดยรอบด้านหรือไม่  แต่ประชาชนคนไทยโปรดทราบตามนี้

ขณะที่นักกฎหมายอีกคนหนึ่งก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ คือนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า  ความเห็นทางกฎหมายเราเห็นต่างกันได้ แต่เป็นการถกเถียงเพื่อความงอกงามทางวิชาการด้านกฎหมาย

1.อัยการเลือกที่จะสรุปว่า คดียังไม่สิ้นสุดเพราะมีพยานหลักฐานใหม่ ตามวิ.อาญา มาตรา 147 ทั้งที่ความจริงการสอบสวนใหม่ไม่ใช่ทางนี้ทางเดียว แต่การเลือกวินิจฉัยว่ามีพยานหลักฐานใหม่อัยการปลอดภัยทั้งคณะ ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนใครว่าสั่งคดีโดยชอบหรือไม่

2.ผมมีความเห็นว่าความเร็ว 177 กม./ชม. เป็นพยานหลักฐาน(เก่า)ที่มีในสำนวนแล้ว โดย พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น เคยให้การไว้ว่า รถมีความเร็ว 177กม./ชม. แต่ต่อมา พ.ต.ต.ธนสิทธิ กลับคำให้การเดิมเป็นว่ารถมีความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม. กรณีนี้จึงถือว่าเรื่องความเร็วเป็นพยานหลักฐานที่ปรากฎในสำนวนแล้ว แต่พนักงานอัยการเลือกที่จะเชื่อทฤษฎีว่ารถมีความเร็วไม่เกิน 80กม./ชม. แทนที่จะเชื่อทฤษฏีว่ารถมีความเร็ว 177กม./ชม. เรื่องนี้จึงเป็นกรณีการชั่งน้ำหนักคำพยานเพื่อใช้ดุลยพินิจ  ในการสั่งคดีของพนักงานอัยการ มิใช่เรื่องพยานหลักฐานใหม่

3.การวินิจฉัยว่าให้สอบสวนใหม่ตาม ป.วิ.อาญา ม.147  หากผู้ต้องหาต่อสู้ว่าเป็นการสอบสวนไม่ชอบ และศาลเห็นด้วยว่าไม่ชอบตาม วิ.อาญามาตรา 147 ก็ต้องยกฟ้องอีก  เพียงแต่ครั้งนี้ทำให้ทุกฝ่ายปลอดภัยโดยคำพิพากษาของศาล win-win กันทุกฝ่าย

4. คดีนี้มีทางออกที่ดีกว่านี้ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่เป็นทนายประชาชน จะหาทางออกให้

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ