วันนี้ 6 ส.ค. 2563 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง พยานสำคัญในคดี บอส อยู่วิทยา โดยในส่วนของตำรวจภูธรภาค 5 ได้แบ่งการสืบสวนออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ สำนวนการชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิต , คดีอุบัติเหตุจราจร และสำนวนการสืบสวนเกี่ยวกับตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เผยคำให้การ 2 ครั้ง 'จารุชาติ มาดทอง' ก่อนตาย เปิดสายสัมพันธ์โยง ทนาย 'บอส อยู่วิทยา'
โดยส่วนของการชันสูตรนั้นแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต อย่างชัดเจนแล้วว่า เลือดออกบริเวณก้านสมองจำนวนมาก จากการสะบัดอย่างแรง เหลือเพียงรอผลการตรวจสารปนเปื้อนในร่างกายของนายจารุชาติ ขณะที่ในส่วนของคดีอุบัติเหตุจราจรได้มีการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องทุกปากตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเกิดเหตุ รวมทั้งเก็บหลักฐานกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง โดยทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้วเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ ร่องรอยการเฉี่ยวชน และคำนวณความเร็ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรอผล
สำหรับการสอบสวนเกี่ยวกับตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้น นายจารุชาติ และนายสมชาย ตาวิโน คู่กรณีไม่เคยรู้จักหรือมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันในทุกมิติ มาก่อนที่จะเกิดเหตุในครั้งนี้ โดยนอกจากนี้ทางตำรวจได้ทำการเชิญตัว คนรู้จักรอบข้างและเชื่อมโยงเกี่ยวข้องทั้งหมด มาทำการสอบปากคำในส่วนของครอบครัวและที่ทำงาน เพื่อไขข้อสงสัยตั้งแต่เกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ รวมทั้งได้เชิญตัวนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง มาสอบถาม ข้อมูลต่างๆ ซึ่งให้การว่ายอมรับว่ารู้จักกับผู้ตายในฐานะนายจ้าง และรู้จักกับคนตระกูล "อยู่วิทยา" โดยข้อมูลต่างๆจากการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะทำการรวบรวมไว้ในสำนวนอย่างละเอียด
“ส.ว.ก๊อง” เผย ความสัมพันธ์ “จารุชาติ” พยานสำคัญคดี “บอส อยู่วิทยา”
ส่วนโทรศัพท์มือถือของนายจารุชาตินั้น ตรวจสอบทราบตัวผู้ที่รับโทรศัพท์มือถือไปจากญาติคือคนรู้จักของนายจารุชาติและเป็นหนึ่งในลูกน้องของ สว.ก๊อง เหมือนกัน โดยให้การยอมรับว่าเอาไป เพราะก่อนหน้านี้รู้จักและสนิทกับนายจารุชาติ รวมทั้งมีรูปถ่ายร่วมกันอยู่ในโทรศัพท์มือถือของนายจารุชาติ แต่เนื่องจากตัวเองเตรียมจะลงสมัคร เลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลสุเทพ ทำให้เกรงว่าหากรูป ดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปจะส่งผลกระทบต่อการหาเสียง จึงเอาโทรศัพท์จากญาติไปลบภาพทิ้ง และทำลายพร้อมกับทิ้งขยะไป
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องทำการสืบสวนอย่างละเอียดต่อไป เพราะตั้งข้อสงสัยเช่นกันว่าเหตุใดจึงต้องมีการทำเช่นนั้น ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวกลับคืนมา แต่สามารถตรวจสอบข้อมูลการโทรเข้าออกย้อนหลังได้ ซึ่งญาติของนายจารุชาติ ได้แจ้งความ ดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์แล้วกับผู้ที่เอามือถือไปทำลาย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่า ได้มีการตรวจสอบบัญชีธนาคารและเส้นทางการเงินของนายจารุชาติ ย้อนหลังแล้ว พบว่ามีเงินอยู่ในบัญชีไม่มาก และไม่พบการเข้าออกของเงินอย่างผิดปกติ โดยพบเงินเข้าหลักพัน และมากสุดหมื่นต้นๆ ขณะที่ในส่วนทรัพย์สินของครอบครัวและญาติ ของนายจารุชาตินั้น จากการตรวจสอบและสังเกตเบื้องต้น ไม่พบว่า มีทรัพย์สินเงินทองผิดปกติจากชาวบ้านทั่วไปแต่อย่างใด
ตร.เชียงใหม่ ส่งร่าง "จารุชาติ" ชันสูตรอีกครั้ง
ซิมมือถือ 'จารุชาติ' หาย!! ตร.เต้น 'บิ๊กแป๊ะ' จี้ พลิกศพ-เช็กข้อมูลโทรฯ พยาน 'บอส อยู่วิทยา'
เปิดเบื้องหลังตามหา พยาน “บอส อยู่วิทยา” ก่อนพบเสียชีวิตแล้ว
