“สวีเดน” ยอมแลก เศรษฐกิจติดลบน้อย แต่ผู้ติดเชื้อพุ่งสูง  


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิกฤตโควิด-19 ที่นำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศทั่วโลก มีราคาแพงที่ต้องจ่าย นั่นคือ ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว

นายกฯ ยอมรับ โควิด-19 ทำเศรษฐกิจไทยซบเซานาน 2 ปี จีดีพีติดลบ 10%

ความเชื่อมั่น เดือน มิ.ย.63 ดีขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

เราจึงเห็นหลายประเทศที่ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาติดลบกันหมด สหรัฐติดลบถึงร้อยละ 30 ของไทยที่นายกบอกไปคือติดลบประมาณร้อยละ 10 ส่วนใหญ่คือติดลบสองหลัก ยกเว้นประเทศสวีเดน วันนี้ประกาศตัวเลขออกมาคือ ติดลบร้อยละ 8.6 ซึ่งถึงแม้จะเป็นการติบลบที่เยอะที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ก็ถือว่าลบน้อยกว่าประเทศอื่นๆมาก ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ สวีเดนเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่ใช้มาตรการล๊อคดาวน์

ที่กรุงสต็อกโฮล์มของสวีเดน ผู้คนต่างเดินสวนกันขวักไขว่โดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือรักษาระยะห่างทางกายภาพชาวสวีเดนต่างออกมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นับเป็นภาพที่เราไม่เห็นในประเทศอื่น โดยเฉพาะในยุโรปที่ตอนนี้ทุกประเทศล้วนออกคำสั่งให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน และบางเมืองกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวด

แต่ไม่ใช่ที่สวีเดน สวีเดนเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ คือยังคงให้ธุรกิจดำเนินกิจการตามปกติ และการใส่หน้ากากอนามัยให้เป็นการทำโดยสมัครใจ แต่ให้เน้นการทำงานจากบ้าน หรือหลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะเอาแทน รัฐบาลสวีเดนบอกว่า มาตรการที่ไม่ตึงจนเกินไปเป็นมาตรการที่ยั่งยืนกว่า

ในขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ที่มีผลมาจากมาตรการล็อคดาวน์  เศรษฐกิจของสวีเดนลดลงร้อยละ 8.6 ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งถือว่าลดลงในอัตราที่ต่ำกว่าหลายประเทศในยุโรป

เมื่อเราเปรียบเทียบกับประเทศยุโรปอีก 5 ประเทศ จะเห็นว่าเศรษฐกิจของสเปนติดลบมากที่สุดถึงร้อยละ 18.5 รองลงมาคือฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี ขณะที่เศรษฐกิจของสวีเดนติดลบน้อยที่สุด

นอกจากนี้เศรษฐกิจของสวีเดนในไตรมาสแรกไม่ติดลบ ขณะที่ประเทศอื่นติดลบทั้ง 2 ไตรมาส ตัวเลขนี้เป็นภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 40 ปี สำหรับสวีเดน แต่ก็ถือว่าดีกว่าประเทศอื่นๆมาก

รัฐบาลสวีเดนบอกว่า การไม่ล๊อคดาวน์ก็เพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจากตัวเลขที่ออกมาวันนี้ก็อาจเป็นอย่างนั้นจริง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า อาจต้องดูอีกสักระยะ เพราะที่สวีเดนไม่ได้รับกระทบมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปก็เพราะเศรษฐกิจของสวีเดนขึ้นอยู่กับการส่งออกไม่ได้พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก

ปัญหาก็คือ ถ้าประเทศอื่นได้รับผลกระทบหนัก การส่งออกของสวีเดนก็อาจมีปัญหาได้ในที่สุด การไม่ล็อคดาวน์ส่งผลให้กิจการธุรกิจของสวีเดนดำเนินไปได้ตามปกติ

งานวิจัยจากธนาคาร Scandinavian Bank ชี้ว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ชาวสวีเดนจับจ่ายซื้อของในอัตราที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผลกระทบเศรษฐกิจไม่หนักหนาสาหัสเท่าประเทศอื่น

อีกประเด็นหนึ่งคือ สวีเดนไม่ได้พึ่งอุตสากรรมท่องเที่ยวเป็นหลักเหมือนอย่างสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในตอนนี้

แต่อย่างไรก็ตามต้องรอดูอีกสักระยะ เพราะถ้าเศรษฐกิจของประเทศอื่นย่ำแย่ ในที่สุดเศรษฐกิจของสวีเดนก็จะย่ำแย่ตาม เพราะประเทศอื่นก็ต้องลดการนำเข้าสินค้า เพียงแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสเปนอาจเห็นได้ช้ากว่าประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก

แต่การไม่ล็อคดาวน์ของสวีเดนก็มีราคาที่ต้องจ่าย ถ้าไปดูตัวเลขผู้เสียชีวิต จะเห็นว่าสวีเดนสวีเดนมีที่มีอัตราผู้เสียชีวิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เรามาดูกันว่าในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตของสวีเดนเป็นอย่างไรบ้าง

ณ ตอนนี้สวีเดนมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 81,000 ราย อยู่ที่อันดับ 8 ในทวีปยุโรป โดยมีรัสเซีย อังกฤษ และสเปน เป็นประเทศยุโรปที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับแรก

ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตต่อ 100,000 คนของสวีเดนอยู่ที่อันดับ 5 คือราว 56 คนต่อ 100,000 รายรองลงมาจากอิตาลี สเปน อังกฤษ และเบลเยียม

แต่ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ที่มีสวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ สวีเดนถือว่าเป็นประเทศที่อัตราผู้เสียชีวิตสูงที่สุด ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการระบาด

อย่างเดนมาร์กนั้นอยู่ที่เกือบ 11 ราย ต่อ 100,000 คน ขณะที่ไอซ์แลนด์อยู่ที่ 2.8 คน โดยยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดของสวีเดนอยู่ที่มากกว่า 5,700 ราย

แนวคิดการไม่ล็อคดาวน์ของสวีเดน ได้รับอิทธิพลมาจาก Anders Tegnell นักระบาดวิทยาชาวสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับมอบหมายให้รับมือกับโรคระบาดในประเทศ ตั้งแต่การระบาดของไข้หวัดหมูในปี 2009

เขาเป็นคนที่ออกมาประกาศว่าสวีเดนจะไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ เนื่องจากมองว่ามาตรการล็อคดาวน์เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้นและถึงแม้สวีเดนจะไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ แต่ไม่ได้หมายความว่าสวีเดนไม่ใช้มาตรการป้องกันอื่นๆ

สวีเดนห้ามการรวมตัวกันเกิน 50 คนขึ้นไป ร้านอาหารและบาร์ต่างๆ จะให้บริการแบบนั่งโต๊ะเท่านั้น ไม่ให้บริการแบบยืนการใส่หน้ากากอนามัย หรือรักษาระยะห่างนั้น เป็นการรณรงค์ให้ทำโดยสมัครใจ แต่ไม่เคยออกเป็นกฎบังคับ

แต่เมื่อยอดผู้เสียชีวิตของสวีเดนพุ่งทะยานขึ้นระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม นาย Anders Tegnell ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ขอโทษด้วย แต่คนเสียชีวิตเยอะเกินไปจริงๆ จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เคยสนับสนุนเขา ต่างออกมาบอกว่า รู้สึกผิดและคิดว่า หากสวีเดนใช้มาตรการล็อคดาวน์ อาจช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่านี้

อย่างไรก็ตามอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดผู้เสียชีวิตในสวีเดนเริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากกว่า 100 คนต่อวันในช่วงเดือนเมษายน เหลือเพียงราว 10 คนต่อวัน

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันก็ลดลงเฉลี่ยแล้วเหลือ 200-300 คนต่อวัน จากที่มากกว่า 1,000 รายในช่วงเดือนมิถุนายน การตัดสินใจไม่ล็อคดาวน์ของสวีเดนส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องการการล่มของเศรษฐกิจ

แต่สำคัญมากกว่านั้นคือ ต้องการให้ประชาชนปรับตัวได้คุ้นชินกับมาตรการป้องกันเหล่านี้ได้ระยะยาว มากกว่าที่จะอยู่กับมาตรการที่ตึงเครียดเกินไป

แต่การไม่ล็อคดาวน์ก็ย่อมมีด้านดีด้านเสีย มีความเสี่ยง ที่ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละประเทศด้วย และต้องอาศัยวินัยจากประชาชนเป็นหลัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 63 ติดลบ 6%

อินเดียป่วย โควิด-19 ทะลุ 3 หมื่น หลังเริ่มผ่อนล็อกดาวน์

  

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ