สรุปผลสอบ 4 คณะคดีฉาวสั่งไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คดีมหากาพย์ของ "บอส วรยุทธ" ใกล้จะครบ 8 ปีเต็มนับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 แต่คดีนี้ก็ยังไม่จบลงง่าย ๆ เช่นเดียวกับเรื่องอื้อฉาวที่ถูกเปิดเผยออกมาจากการสอบสวนของคณะกรรมชุดต่าง ๆ เป็นระยะ

ด่วน!! อนุมัติแล้วหมายจับใหม่ 'บอส อยู่วิทยา' ประสานตำรวจสากลล่าตัว

พบคำสั่งอัยการเปลี่ยนไปมาใน 37 วัน ก่อนไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ”

เมื่อเย็นวานนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งขึ้น โดยมีศาสตราจารย์ พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการ เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปรายงานผลการตรวจสอบทั้งเรื่องคดีอาญา วินัย และจริยธรรมของบุคคลทุกฝ่ายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ย้ำชัดว่า มีการร่วมมือช่วยเหลือทางคดีจากหลายฝ่าย ตั้งแต่เริ่มต้นทำคดี ซึ่งนอกจากผลสอบจากฝ่ายตำรวจที่ระบุว่ามีตำรวจ 21 นายบกพร่องแล้วยังมีบุคคลทั่วไปและบุคคลที่ดำรงตำแหน่งอีกกว่า 10 คนที่อยู่ในกระบวนการช่วยเหลือนายวรยุทธ

ศาสตราจารย์ พิเศษ วิชา บอกว่า เป้าหมายของคณะทำงานชุดนี้คือ เสนอให้รื้อคดีนี้ใหม่ทั้งหมด เป็นหลักใหญ่เพื่อความยุติธรรมและเป็นธรรมแต่ก็คงได้เฉพาะบางข้อกล่าวหาที่ยังไม่ขาดอายุความหรือยังไม่เคยตรวจสอบหรือจัดการให้ชัดเจน แม้ว่าตำรวจจะดำเนินการไปบ้างแล้วแต่เราเห็นว่าต้องทำยิ่งกว่านั้น

ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงจากฝ่ายอัยการ และตำรวจ ได้สรุปผลการสอบสวนไปแล้ว โดยฝ่ายอัยการยืนยันการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย

แต่มีความเห็นเพิ่มเติม 2 ประเด็น 1.จะแจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไปในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคเคน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 มาตรา 58, 91 กรณีผลตรวจเลือดนายวรยุทธ พบ สารหนึ่งในสี่ชนิดที่เข้าข่ายความผิดดังกล่าว และ2.จะให้ดำเนินการตาม ป.วิ อาญา มาตรา 147 คือ กรณีการคำนวณความเร็วของอาจารย์สธน ยังไม่มีปรากฏในสำนวนจึงเห็นว่าเป็นหลักฐานใหม่ ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 147 จึงให้ทำการสอบสวนใหม่ในประเด็นขับรถโดยประมาท อายุความเหลืออีก 7 ปี

ส่วนนายเนตร นาคสุข ยื่นหนังสือลาออกจากอัยการ เจ้าตัวอ้างถูกกระแสสังคมกดดัน แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันว่าได้รับการอนุมัติให้ลาออกแล้วหรือยัง แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ หรือ กอ. [MOS]ที่มีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุดเป็นประธานก็มีมติ 9 ต่อ 5 ไม่ตั้งกรรมการสอบวินัยนายเนตรปมสั่งไม่ฟ้อง

ขณะที่ อัยการสูงสุด นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงใด ๆ อย่างเป็นทางการ

จากความเห็นเพิ่มเติมของคณะทำงานอัยการนำไปสู่การสอบสวนรวบรวมหลักฐานจากตำรวจเพื่อเสนอศาลอนุมัติหมายจับนายวรยุทธ ใหม่ 3 ข้อหา คือ

1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ถึงแก่ความตาย

2.ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือฯ

3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โดยผิดกฎหมาย

คณะทำงานฝ่ายตำรวจได้แถลงผลการสอบสวนไปเมื่อสัปดาห์ก่อนพบข้อบกพร่อง ตำรวจอีก 21 นาย ในจำนวนนี้เป็นตำรวจชุดเดิมที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยไม่ร้ายแรงไปแล้ว 11 นาย ส่วนอีก 10 นายเป็นตำรวจรายใหม่ที่พบบกพร่องเพิ่มเติม

ขณะที่ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. นั้น ถือว่ามีบทบาทสำคัญในคดีนี้เช่นกัน ทั้งเรื่องการเปิดเผยเอกสารการประชุม กมธ.ในยุค สนช. ซึ่งทำให้เห็นตัวละครสำคัญ ๆ ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน รวมทั้งการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงมาให้ข้อมูล นับเป็นคณะแรกที่เรียกนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด คนสั่งไม่ฟ้องคดีนี้  พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. คนที่ไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ และนายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความนายวรยุทธ มาปรากฏตัวต่อสาธารณะพร้อมกันได้เป็นครั้งแรก

นอกจากนี้มีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนมาให้ข้อมูลแต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่มาเข้าพบ เช่น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบัตร พยานปากสำคัญ ต่อมาเมื่อมีการขออนุมัติหมายจับนายวรยุทธใหม่แล้ว นายสิระจึงแถลงข่าว หยุดการตรวจสอบของกรรมาธิการการกฎหมายฯ ไปก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนจากหน่วยงานอื่น

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ