ลูกแฝดนายกฯซัดแรง 10 ข้อกล่าวหา ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด เชือดให้ดู ฝากให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ทนายความของ ธัญญา - นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวนายกรัฐมนตรี นำหลักฐานแจ้งความโซเชียลมีเดียกล่าวหา แถลงการณ์ตอบ ซัดแรง 10 ข้อ เชือดจริงให้ดู 'บิ๊กตู่' เคารพสิทธิลูกสาว

ลูกสาว “บิ๊กตู่” ส่งทนาย แจ้งความคนดูหมิ่น ทำให้ถูกเกลียดชัง

'บิ๊กตู่' รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ไม่โต้ปม 'ลูกสาว' ยินดีได้คุยกลุ่มนศ. ฝากข้อความถึงผู้ชุุมนุม

นายอภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากนางสาวธัญญา และนางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำหลักฐานการโพสต์ทวิตเตอร์ และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมกว่า 100 บัญชี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานหมิ่นประมาท และความผิดผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังโพสต์ทวิตเตอร์และคลิปวิดีโอกล่าวหาว่าบุตรสาวของนายกทั้ง 2 คน เปลี่ยนชื่อและนามสกุล และช่วยบิดาฟอกเงิน ซึ่งเป็นการทุจริต สร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียง เกียรติยศ วงศ์ตระกูล


นายอภิวัฒน์ เผยว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง บุตรสาว นายกรัฐมนตรี ไม่เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล และยังพำนักมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย ไม่เคยไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และไม่เคยสอบตกตามที่ถูกใส่ร้าย ส่วนการโอนเงินจากบิดามาเข้าบัญชีของบุตรสาว ไม่ใช่บัญชีต่างประเทศ แต่เป็นบัญชีในไทยเพียงบัญชีเดียว ที่เคยโอนเงินมาเมื่อปี 2556 และเป็นเงินที่มาจากมรดกที่ดิน โดยได้มีการชี้แจงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ไปแล้ว ขณะที่สาเหตุที่ลูกความไม่ปรากฎตัวตามสื่อโซเชียลมีเดียนั้น เป็นเพราะลูกความไม่ต้องการใช้อภิสิทธิ์ และกลัวจะถูกนำชื่อหรือรูปไปแอบอ้าง เพราะเป็นลูกสาวของนายกรัฐมนตรี จึงต้องการใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา

ทนายความเผยว่านายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีการเน้นย้ำ หรือกำชับใดๆ เป็นพิเศษ ตนเองมาในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 2 คนอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูล จึงต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ ให้ไปว่ากันในชั้นศาล และไม่ต้องมีการมาขอขมาใดๆ เพราะลูกความของตนเองต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน ไม่ให้มีผู้ใดมาว่าร้ายใครในลักษณะนี้อีก
 
ด้านพลตำรวจตรีสำเริง สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า หลังจากนี้ก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมารวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพราะพยานหลักฐานมีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้กดดันที่ผู้เสียหายเป็นลูกสาวนายก แต่เมื่อมีผู้เสียหายมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการไปตามปกติ ที่สน. นางเลิ้ง

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีน.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวฝาแฝดได้มอบอำนาจให้นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคล ที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ที่สน.นางเลิ้ง ว่า ”ก็เรื่องของเขาถือว่าเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว ก็เป็นสิทธิของเขา จะปกป้องชื่อเสียงก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็ฟังคนรุ่นใหม่“

วาทะเด็ดคนดังโต้กลับเกรียนออนไลน์

นอกจากนี้ บุตรสาวฝาแฝดของนายกรัฐมนตรี ยังออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า

  • -คำชี้แจงของ นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา

-จากข้อกล่าวหาใน Social Media #ตามหาลูกประยุทธ์ ที่เป็นกระแสสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้าพจ้า นางสาวธัญญา จันทรโอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ประสงค์ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือสื่อใดๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ข้าพเจ้าทั้งสอง เช่นการกล่าวหาว่า ข้าพเจ้าทั้งสอง เปลี่ยนนามสกุล, อาศัยอย่างสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์ต่างประเทศ, เป็นเส้นทางฟอกเงินของบิดาและอื่นๆ โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริงเช่นนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวข้าพเจ้าทั้งสองและวงศ์ตระกูล ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง 

ข้าพเจ้าทั้งสอง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการงานของบิดา ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆทางการเมือง วันนี้ข้าพจ้าทั้งสอง จำเป็นต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สิทธิของตนเอง และวงศ์ตระกูล ข้าพเจ้าทั้งสองขอเรียนชี้แจง ในประเด็นข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ดังนี้

ข้อ 1 กล่าวหาว่า : มีการเปลี่ยนมาใช้ นามสกุลมารดา เพื่อทำเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ฟอกเงิน ขอวีซ่าเพื่อหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฯลฯ

ข้อเท็จจริง : ไม่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใดๆ ยังคงใช้ชื่อ ธัญญา จันทร์โอชา และ นิฏฐา จันทร์โอชา ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน

ข้อ 2 กล่าวหาว่า : ไม่ได้อยู่ประเทศไทย
ข้อเท็จจริง : อยู่ประเทศไทยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตปกติอย่างประชาชนคนไทยทั่วไป


ข้อ 3 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย
ข้อเท็จจริง : ไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียว เมื่อวัยเด็ก

ข้อ 4 กล่าวหาว่า : เรียนอยู่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง : ข้าพจ้าทั้งสอง เรียนจบชั้นประถมและมัธยม จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ เรียนจบปริญญตรี จาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เท่านั้น

ข้อ 5 กล่าวหาว่า : สอบตกปริญญาโท อธิการบดีถูกกดดันให้รับเข้าเรียน
ข้อเท็จจริง : ไม่ได้เรียนปริญญาโท และ ไม่เคยสอบตก เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 และ เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่

ข้อ 6 กล่าวหาว่า : ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเจ้าสัวซื้อให้
ข้อเท็จจริง : ข้าพจ้าทั้งสองใช้ชีวิตตามปกติในประเทศไทย ไม่เคยพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นระยะเวลานาน ไม่เคยพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใดๆ ข้าพเจ้าทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดในปีพ.ศ.2558 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดยเข้าพักโรแรมตามปกติ ในการนี้ ข้าพจ้าทั้งสองได้มอบหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว

ข้อ 7 กล่าวหาว่า : มีการซุกเงิน ฟอกเงิน โดยบิดโอนเงินเข้าบัญชีลูกที่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง : ข้าพจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศ มีเพียงบัญชีธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น

ข้อ 8 กล่าวหาว่า : บิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้งสองคนเพื่อฟอกเงิน
ข้อเท็จจริง : บิดโอนเงินให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือ ความลับใดๆ บิดาเป็นผู้ชี้แจงเองและแจกแจงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต่อป.ป.ช.อย่างเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2557 และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พันเอก ประพัฒน์ จันทร์โอชา (คุณปู่ และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี)

ข้อ 9 กล่าวหาว่า : ทำไมไม่เคยมีภาพหลุดออกมาใน Social Media ใดๆเลยแม้กระทั่งของเพื่อนยังไม่มีภาพ
ข้อเท็จจริง : ข้าพจ้าทั้งสองไม่มีบัญชีส่วนตัวใน Social Media ใดๆ และ กลุ่มเพื่อนที่ติดต่อกันก็เข้าใจในสิทธิความเป็นส่วนตัวจึงเคยแชร์ภาพใดๆ และไม่ต้องการให้ มีบุคคลใดนำภาพไปแอบอ้างใช้หาประโยชน์

ข้อ 10 กล่าวหาว่า : ไม่เปิดเผยตัวเหมือนลูกนักการเมือง หรือ ลูกนายกฯ คนอื่นๆ
ข้อเท็จจริง : ข้าพจ้าทั้งสองใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่รู้จักหรือเปิดเผยตัวว่าเป็นลูกใคร เพราะ ไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือเพื่อรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของบิดา หากมีใครแอบอ้างว่ารู้จัก สามารถช่วยเหลือเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด

"ข้าพเจ้า นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา ต้องการใช้ สิทธิทางกฎหมายโดยการฟ้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด กับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ทั้งหมด ทั้งผู้ที่โพสต์และแชร์ ในทุกช่องทาง Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Youtube ฯลฯ รวมถึงสื่อ หรือ พื้นที่สาธารณะอื่นๆ โดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น"

ข้าพเจ้าทั้งสองประสงค์ให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้ Social Media ในประเทศไทยว่า ผู้ใดก็ตาม ไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย,กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ผู้อื่น โดยปราศจากหลักฐาน และในขณะเดียวกันก็ไม่ ควรมีผู้ใดตกป็นเครื่องมือทางการเมือง จากการหลงเชื่อข้อมูลโดยขาดการไตร่ตรอง คิดวิเคราะห์แยกแยะ เพียงเพราะความอคติ และ ความเกลียดชัง อีกต่อไป"

"หากผู้ใดมีหลักฐานการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ, ด่าทอให้ร้าย, กล่าวหา, คุกคาม, หมิ่นประมาท ที่เกี่ยวข้องกับข้าพจ้าทั้งสองเพิ่มเติม ขอความร่วมมือส่งข้อมูลมาที่ทนายความของข้าพเจ้าทั้งสอง ทางอีเมล law.one555@gmail.com เพื่อรวบรวมและดำเนินการ ฟ้องร้องต่อไป

นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และ นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา
2 กันยายน 2563
#ความจริงลูกประยุทธ์

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ