"ขายข่าว ไร้จรรยาบรรณ" ช่างภาพ สุดทนต้องทำข่าวน้องชมพู่ ปั้นเรื่อง"ลุงพล"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่ 11 พฤษภาคม 2563

ลุงพล ท้า แม่น้องชมพู่ ให้เอาความจริงทั้งหมดมายืนยัน

ตำรวจชุดทำคดี “น้องชมพู่” ลุยค้น 12 จุดต้องสงสัยปมยาเสพติด

ล่าสุดหัวหน้าช่างภาพ​ สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง​ โพสต์เฟซบุ๊ก​ พร้อมภาพคอมเม้นต์ตำหนิสื่อมวลชนในการนำเสนอจนลุงพล​ ชายที่เคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี​ กลายเป็นเน็ตไอดอล​ กลายเป็นเซเลบริลีตี้​ จนศิลปินหลายคนเชิญไปร่วมงาน​ ขณะที่คดีการเสียชีวิตของเด็กหญิงไม่มีความคืบหน้า  จนในทวิตเตอร์สร้างแฮชแทก​ #แบนลุงพล​ แต่ตำหนิบทบาทของสื่อมวลชนในกรณีลุงพล​ อย่างดุเดือด

ช่างภาพทีวี​ คนนี้โพสต์ว่า​ "ขอโทษกับความเน่าเฟะกรณีลุงพล ป้าแต๋น และบ้านกกกอก จากน้ำมือของ “สื่อมวลชนอย่างพวกเรา” ที่หยิบยื่นให้กับสังคม ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

ผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าช่างภาพข่าวของหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอข่าวนี้มาโดยตลอด ผมทำงานที่นี่มา 6 ปี ตั้งแต่วันแรกของการออกอากาศ จนวันนี้ไม่สามารถอดทนกับเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ตัดสินใจเดินออกมาแล้ว

จากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่ถูกนำเสนอโดยสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งและ “ผมคือหนึ่งในนั้น” ที่มีส่วนทำให้คดีความ 1 คดี กลายเป็นเรียลลิตี้ชีวิตของลุงพล-ป๋าแต๋น  เรียลลิตี้ความแตกแยกของครอบครัวๆหนึ่ง ชีวิตคนในหมู่บ้านกกกอก เรื่องไสยศาสตร์ ความงมงาย และการมอมเมา

“เราขายข่าวรายวัน” “เราหน้าไม่อาย” “เราไม่สนผิดถูก” “เราไร้จรรยาบรรณ” คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถาม และมันถูกต้องทั้งหมด

เรานำเสนอเรื่องราวที่ห่างไกลจากสิ่งที่ควรจะเป็นจนกู่ไม่กลับ หาประโยชน์และปล่อยให้กลุ่มคนที่ต้องการผลประโยชน์จากเรื่องนี้เข้ามารุมทึ้ง “เราอยากได้กระแส และต้องการเพียงแค่ยอดคนดู ยอดกดไลก์ ยอดแชร์”

บางคนแก้ต่างว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สื่อฯอย่างพวกผม ทำไปเพื่อตอบสนองความกระหายใคร่รู้ของคนในสังคม หรือช่วยเหลือให้ชาวบ้าน 2 คนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

มันไม่ใช่แค่สิ่งนั้นแน่นอน มันคือผลประโยชน์ทั้งนั้น ยอมรับกันสักทีเถอะว่า “เรา” คือตัวแปรสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความบิดเบี้ยวทั้งหมดนี้ เพราะเราหิวกระหายเรตติ้งกันเหลือเกิน

“เรตติ้ง” คือทุกสิ่งทุกอย่าง

“เรตติ้ง” คือปัจจัยที่จะบอกได้ว่าคุณอยู่หรือไป

และ “เรตติ้ง” ก็กลายเป็นข้ออ้าง ที่ทำให้คนบางกลุ่มยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มา

ผมเป็นหนึ่งคนที่รับรู้เรื่องราว ที่ถูกสร้าง ปั้นแต่งและถูกนำเสนอผ่านหน้าจอมาโดยตลอด และตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า “พวกเราทำอะไรกันอยู่” “มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ ไม่ใช่ความแปลกใหม่ ไม่ใช่ห่าอะไรทั้งสิ้น”

วันนี้ ผมซึ่งระลึกเสมอว่าตัวเองเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ และพยายามจะแก้ไขอะไรบ้าง แต่สุดท้าย “ผมขอยอมแพ้กับความบิดเบี้ยว และยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถท้วงติง หรือเปลี่ยนแปลงอะไรที่เกิดขึ้นจากต้นทางได้”

ทุกอย่างยังดำเนินต่อไป ด้วยเหตุผลที่สรรหากันมา

ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหวังว่าเมื่อเหตุการณ์จบลง ทั้งเราและคนดูบางกลุ่มน่าจะได้บทเรียนจากเรื่องนี้บ้าง และขออย่าเหมารวมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือภาพทั้งหมดของ “สื่อมวลชน” ผมยืนยันว่าในสภาวะที่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องเผชิญ วันนี้ยังคงมีเพื่อนสื่อมวลชน ที่พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ของสื่ออย่างที่ควรจะเป็นให้ได้ดีที่สุด ผมขอบคุณและขอให้กำลังใจเพื่อนสื่อมวลชนที่ยังยืนหยัดทำหน้าที่อย่างถูกต้องต่อไป

9 กันยายน 63

หลังการประชุมที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

#แบนระบบ ก่อน #แบนลุงพล เถอะ

#พูดถึงจริยธรรรม...

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ