อย่าไปวิ่งคนเดียว! สาวโพสต์เหตุระทึก ออกไปวิ่ง โจรดักฉุดดิ้นสู้ลากเข้าข้างทาง รอดด้วยสติดี
เป็นเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายนึ่ง โพสต์เตือนภัย ระบุข้อความ เตือนภัยสำหรับนักวิ่งผู้หญิง หลังเธอไปวิ่งออกกำลังกายบริเวณด้านหลังคลองแสนแสบ กลับเจอคนร้ายเข้าฉุดประชิดตัวอย่างรวดเร็ว และเกิดการต่อสู้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
หญิงผู้เสียหาย โพสต์เล่าว่า เมื่อวันเสาร์ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.00น. ตนเองได้ไปวิ่งออกกำลังกายบริเวณด้านหลังคลองแสนแสบ ซึ่งตามปกติเธอจะวิ่งกับโค้ชอีกหนึ่งคน แต่วันนั้นโค้ชไม่ว่างจึงตัดสินใจไปวิ่งคนเดียว เมื่อวิ่งออกกำลังกายเสร็จกำลังจะเดินทางกลับที่พัก ระหว่างนั้นเธอรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลังตลอดเวลา ก่อนจะตามมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะนั้นยังไม่ทันได้หันไปมอง คนร้ายก็เข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อล็อกตัวเธอจากด้านหลังก่อนจะลากเข้าข้างทาง จังหวะนั้นตนเองมีสติจึงต่อสู้กลับ ทำให้คนร้ายสู้แรงไม่ไหวจึงปล่อยตัว และขณะนั้นมีคนวิ่งมาบริเวณนั้นพอดี เธอจึงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายวิ่งหนีไป เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.หัวหมาก เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว
ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุ คือถนนเลียบคลองแสนแสบ บริเวณนี้เป็นพื้นที่รกร้าง กว้างประมาณ 40 ตารางวา ทั้ง 2 ฝั่งซ้าย-ขวา ติดกับบ้านพักอาศัยของชาวบ้านและถัดจากจุดเกิดเหตุประมาณ10เมตร พบว่าเป็นจุดเสี่ยงเช่นกัน จุดนั้นมีสังกะสีล้อมรอบกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่ จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะรอจังหวะให้เหยื่อวิ่งผ่านจุดนี้ไปก่อน เพื่อลงมือก่อเหตุ
ทีมข่าวสอบถามเจ้าของบ้านที่อยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงผู้ชายกับผู้หญิงคุยกันเสียงดัง ซึ่งขณะนั้นคิดว่าเป็นเสียงคนที่มาออกกำลังกายพูดคุย หลอกล้อกันจึงไม่ได้ออกมาดูพร้อมบอกว่าปกติจะมีคนมาออกกำลังบริเวณเรียบคลองแสนแสบประมาณ 05.00น.-18.00น. แต่ช่วงดึกจะค่อนข้างเปลี่ยวจึงไม่ค่อยมีคนผ่านบริเวณนี้
ขณะที่เจ้าของบ้าน อีกหลังหนึ่งบอกว่าวันที่เกิดเหตุช่วงหัวค่ำตนเองไม่ได้ยินเสียงใครร้องขอความช่วยเหลือ แต่ให้ข้อมูลว่าตามปกติบริเวณจุดเกิดเหตุ มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นมานั่งเล่นและพูดคุยกับ เป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุเหมือนครั้งนี้
ส่วนความคืบหน้าด้านคดี พันตำรวจโท พลกฤต ธรรมสาส์น รองผกก.(สอบสวน)สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวคนร้ายที่แน่ชัด ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมหลังฐานจากกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายต่อไป