หุ้นไทยวันนี้ (18 ก.ย. 63) เปิดการซื้อขาย ดัชนี 1,288.28 จุด บวก 3.88 จุด
"บวงสรวงช้างคู่กระทรวงคลัง" สร้างกำลังใจลุยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2563 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แสดงความเห็นถึง การชุมนุมของนักศึกษาในวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่าจะส่งผลรบกวนตลาดทุนไทยชั่วคราวเท่านั้น ภายใต้การชุมชนเพียง 2 วัน คือ เสาร์ และอาทิตย์ ไม่มีการปักหลักอยู่ยาว ไม่เกิดการปะทะ จนมีผู้บาดเจ็บ และรัฐบาลต้องควบคุมไม่ให้มีมือที่ 3 ปล่อยให้นักศึกษาได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ พร้อมมองว่า การเรียกร้องครั้งนี้ของนักศึกษา รัฐบาลสามารถรับข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่แก้ไขได้ จึงประเมินว่าการชุมนุมครั้งนี้จะไม่บานปลาย
โดยส่วนตลาดหุ้นไทย ก่อนหน้านี้ปัจจัยการเมืองไทย เริ่มกดดันตลาด ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดัชนีเริ่มตอบรับในขาลง สังเกตจากตลาดหุ้นไทยไม่ได้เป็นไปในแนวเดียวกับตลาดโลก และยังคงมีผลจนถึงสิงหาคม ที่เริ่มเห็นดัชนีตกลงไปพอสมควร
นอกจากนี้ จากการสำรวจนักลงทุนของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังพบว่า ขณะนี้ นักลงทุนเริ่มมองปัจจัยเรื่องการเมืองขั้นมาเป็นอันดับความเสี่ยงอันดับ 1 สูงกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่อยู่ในอันดับ 2
นายกฯออกแถลงการณ์ ประเทศอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายมากจากโควิด วอนอย่าชุมนุม เป็นชนวนหายนะ!
ด้านนายสัมมา คีตสิน นักเศรษฐศาสตร์อสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึง การนัดรวมพลชุมนุมใหญ่ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ ระบุว่า การชุมนุม จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นมากน้อยขนาดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับขอบเขต วงของการชุมนุมจะขยายออกไปหลายระดับ หลายบริเวณ เข้มข้นขึ้นหรือไม่ หากมีการควบคุมได้เหมือนทุกวันนี้ ก็จะไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นมากนัก แต่เมื่อใดที่ผลกระทบรุนแรงเหมือนในอดีต ที่มีการชุมนุม เกิดเหตุชุลมุนในย่านราชประสงค์ ย่านศูนย์กลางการค้า ใจกลางเมือง ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นนักลงทุน
ขณพที่ภาพเศรษฐกิจในระยะยาวจะได้รับผลกระทบหรือไม่นั้น นายสัมมา มองว่าขึ้นอยู่กับผลของการชุมนุมว่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง กรณีกดดันให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่แล้วทุกอย่างจบ ก็ไม่ได้ส่งผลใด ๆ มากนัก เนื่องจากอยู่ในวิถีทางของประชาธิปไตย กลับกันหากสถานการณ์เกิดความรุนแรงขึ้น ย่อมมีภาพที่ไม่ดีไปสู่สายตานักลงทุนและต่างประเทศ ก็ย่อมทำให้ต่างชาติประเมินประเทศไทยไปในทางลบมากยิ่งขึ้น จนถึงอาจลดระดับความน่าเชื่อถือได้