กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผย ศาลรัฐบาลกลางเตรียมประหารชีวิตผู้ต้องขังหญิงครั้งแรกในรอบเกือบ 70 ปี โดยผู้ต้องขังรายดังกล่าว คือ ลิซา มอนต์โกเมอรี (Lisa Montgomery) โดยมีกำหนดจะได้รับการฉีดยาพิษในรัฐอินเดียนาในวันที่ 8 ธันวาคม ที่จะถึงนี้
จีน ตัดสินประหารชีวิตครูอนุบาล วางยาพิษเด็กยกห้อง อ้างแค้นเพื่อนร่วมงาน
เปิดขั้นตอน “ประหารชีวิต” ด้วยวิธี “ฉีดยาพิษ” ในไทย
ในเดือนธันวาคม 2004 มอนต์โกเมอรีขับรถจากแคนซัสไปยังบ้านของ บ็อบบี โจ สตินเน็ตต์ (Bobbie Jo Stinnett) ในรัฐมิสซูรี โดยอ้างว่าจะไปซื้อลูกสุนัข เมื่อเข้าไปในที่พัก มอนต์โกเมอรีได้ทำร้ายและรัดคอสตินเน็ตต์ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนจนเหยื่อหมดสติ
จากนั้นมอนต์โกเมอรีได้ใช้มีดทำครัวตัดเข้าไปในช่องท้องของสตินเน็ตต์ ทำให้เหยื่อได้สติกลับมา จนเกิดการต่อสู้เกิดขึ้น ทำให้มอนต์โกเมอรีตัดสินใจรัดขอสตินเน็ตต์จนถึงแก่ความตาย จากนั้นมอนต์โกเมอรีก็เอาทารกออกจากครรภ์ของสตินเน็ตต์ และพยายามทำให้เด็กคนดังกล่าวเป็นบุตรของเธอเอง
ในปี 2007 คณะลูกขุนศาลรัฐบาลกลางตัดสินว่า มอนต์โกเมอรีมีความผิดฐานลักพาตัว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตัดสินโทษประหารชีวิต
แต่ทนายความของมอนต์โกเมอรีกล่าวว่า เธอได้รับความเสียหายทางสมองจากการเฆี่ยนตีตอนเป็นเด็ก และมีอาการป่วยทางจิต จึงไม่ควรเผชิญกับโทษประหารชีวิต
วิลเลียม บารร์ (William Barr) อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวว่า อาชญากรรมดังกล่าวเป็น "การฆาตกรรมที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง"
ผู้ต้องขังหญิงคนสุดท้ายที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ประหารชีวิตคือ บอนนี เฮดี (Bonnie Heady) ซึ่งถูกประหารชีวิตในห้องรมแก๊สในรัฐมิสซูรีเมื่อปี 1953
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า จะดำเนินนำมาตรการประหารชีวิตกลับมาอีกครั้ง
เรียบเรียงจาก BBC
ภาพจาก Getty Image