2 โจรควบมอไซค์ กระชากสร้อยกลางวันแสกๆ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตามล่าตัวคนร้ายวุ่น ที่แท้เป็นเรื่องโอละพ่อ เจ้าตัวยอมรับสร้างเรื่องขึ้นเอง เพราะติดการพนันออนไลน์ จึงนำทองไปขายเพื่อเอาเงินใช้หนี้ สุดท้ายถูกแจ้งข้อหา “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ”
สาววัย 18 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.ชำนิ ว่า เมื่อ วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ สวมหมวกกันน็อกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ตามประกบแล้วใช้มีดที่ติดกับกรรไกรตัดเล็บ จี้บังคับให้เข้าไปในป่าข้างทาง เพื่อหวังจะข่มขืนกระทำชำเรา แต่เธอได้ต่อสู้ขัดขืนจึงโดนคนร้ายตบหน้าบีบคอกระชากเสื้อจนขาด และพยายามร้องตะโกนให้คนช่วย จนคนร้ายตกใจกระชากสร้อยทองน้ำหนัก 50 สตางค์ที่สวมใส่อยู่ขับรถหลบหนีไป
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานพร้อมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ และกระจายกำลังออกติดตามตัวคนร้ายตลอดทั้งคืน กระทั่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกรอบ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการติดตามตัวคนร้าย แต่กลับพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งร่องรอยบาดแผลที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกทำร้าย และข้อมูลต่างๆ ที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน
จึงได้เค้นสอบ สาววัย 18 ปี จนในที่สุดก็ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าตำรวจว่าเป็นเรื่องโกหกที่อ้างขึ้นมา เป็นการสร้างเรื่องขึ้น เนื่องจากติดการพนันออนไลน์ 8,000 บาท แล้วหาเงินใช้หนี้พนันไม่ทัน จึงตัดสินใจนำสร้อยทองหนัก 50 สตางค์ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ในราคา 12,800 บาท เพื่อนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ แต่กลัวสามีและทางครอบครัวจะต่อว่า จึงปั้นเรื่องขึ้นว่าตัวเองถูกคนร้ายจี้เพื่อหวังข่มขืนและชิงสร้อยทองไป ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาตัวสาววัย 18 ปี รายนี้ ไปชี้จุดร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ที่ได้นำสร้อยทองไปขาย ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ชำนิ โดยเบื้องต้น ถูก แจ้งข้อหา “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้หรือประชาชนได้รับความเสียหาย” โดยคดีแจ้งความเท็จมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี จึงอยากฝากถึงประชาชนว่าไม่ควรจะแจ้งความเท็จ เพราะจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โจรดักกระชากสร้อยทองพ่อค้าผลไม้ กลางวันแสก ๆ ก่อนขับมอเตอร์ไซค์หลบหนี