ตร.ประชุมคดี “เคนมผง”ดับปริศนา 6 ศพ
เจาะลึก "เคนมผง" ที่มายาเสพติดมรณะ เมา มัน เสพครั้งเดียวถึงตาย คร่า 7 ศพคืนเดียว
ที่สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทางกลุ่มเครือญาติของผู้เสียชีวิต 5 ครอบครัว ทยอยเดินทางมายื่นเรื่องติดต่อขอรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
หนึ่งในครอบครัวผู้เสียชีวิตคือนายสุรจิต ผู้เป็นพ่อเดินทางมารับศพ น.ส.มาย อายุ 24 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเดินทางมารับศพลูกสาวทำงานพีอาร์ของสถานบันเทิง ซึ่งเสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ เขตสาทร กทม. เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ยอมรับว่าลูกสาวมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดทุกวันมานานกว่า 1 ปี แต่ทุกครั้งที่จะเสพมักออกอุบายให้ตนออกไปทำงานนอกบ้าน วันที่เสียชีวิต เห็นลูกอาการไม่ค่อยดี ก็ได้พยายามห้ามแล้ว แต่ลูกไม่เคยฟัง
ครอบครัวที่ 2 เดินทางมารับศพนายธงชัย อายุ 34 ปี ผู้ตายเป็นพนักงานส่งหมึกพิมพ์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง พ่อผู้ตายเล่าว่าลูกชายออกไปกินเหล้ากับเพื่อนข้างนอก แล้วกลับเข้ามาเข้ากินข้าวแล้วเข้าห้องนอนพักปกติ จนแม่ผู้ตายขึ้นไปเรียกลูกและพบว่าเสียชีวิตในสภาพเหมือนนั่งบนเตียงห้อยขา ภายในบ้านไม้ 2 ชั้น ซอยอยู่ดี 11 เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าที่ผ่านมารับรู้ว่าลูกชายเสพยา ซึ่งตนทำได้แค่เตือนและห้ามปราบแล้ว แต่ลูกชายก็ไม่เชื่อ
การเสียชีวิตอย่างปริศนาในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร วันนี้มีการเรียกสอบปากคำตลอดทั้งวัน รายหนึ่งคือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พบผู้เสียชีวิตย่านเจริญราษฎร์ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ ตนเองนัดเพื่อนมานั่งดื่มเบียร์ที่บ้าน แต่เพื่อนได้พาคนอื่นที่ตนเองไม่รู้จักมาด้วย รวมทั้งหมด 5 คน มาดื่มเบียร์และเสพยาเคนมผงที่บ้าน จากนั้นตนเองก็เมาหลับไป ตื่นมาอีกทีก็พบว่าผู้หญิง 1 คน ที่เพื่อนพามาเสียชีวิตแล้ว
ส่วนที่มาของยาเคนมผงนั้น พยานรายนี้เล่าว่า ซื้อมาจากโรงสีแห่งหนึ่งในย่านพระราม 3 ราคาซองละ 600 บาท หลังจากมีคนแนะนำต่อกันมา โดยลักษณะของยาตัวนี้จะคล้ายนมผง ไม่มีกลิ่น เมื่อเสพจะมีอาการคล้ายเมาแอลกอฮอล์
ด้านแฟนของผู้เสียชีวิตในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ระบุว่า ไม่เคยทราบว่าแฟนเสพยา โดยตนเองเจอแฟนสาวครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ก่อนเสียชีวิต พบว่ามีอาการเหมือนเมาสุรา ตาเบลอ อาการเหมือนจะวูบหลับ แต่แฟนบอกว่าดื่มสุรามาเพียงอย่างเดียว โดยชายรายนี้ บอกว่า หากเขารู้ก่อนว่าแฟนเสพยาก็คงจะห้ามได้ทัน และฝากเตือนสังคมว่าอย่าคิดได้ลองยาชนิดนี้ เพราะอาจถึงขั้นเสียชีวิตเช่นเดียวกับแฟนสาวของตนเอง
ส่วนความคืบหน้าคดี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังลงพื้นที่มาติดตามคดีที่ สน.วัดพระยาไกร ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตมี 6 คน เป็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 3 คน อยู่ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 5 คน คือ
1. หญิง อายุ 24 ปี ผู้เสียชีวิต
2. หญิง อายุ 21 ปี ผู้เสียชีวิต
3. ชาย อายุ 20 ปี ผู้เสียชีวิต
4. ชาย อายุ 34 ปี ผู้เสียชีวิต
5. ชายไม่ระบุอายุ ผู้เสียชีวิต
และพื้นที่ สุทธิสาร 1 คน ผู้เสียชีวิต เป็นหญิง อายุ 19 ปี
สาเหตุของการเสียชีวิต พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ไม่ยืนยันว่ามาจากยาที่เรียกว่า “เคนมผง” ทั้งหมดหรือไม่ เพราะบางจุดก็ไม่พบของกลาง แต่แพทย์ให้สาเหตุการเสียชีวิตตรงกันว่ามาจากอาการ “หัวใจล้มเหลว” โดยผู้เสียชีวิตบางส่วนก็ไม่มีประวัติยาเสพติด แต่เชื่อว่าทั้งหมดเชื่อมโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ส่วนที่พยานบอกว่ารับยา “เคนมผง” มาจากย่านพระราม 3 ยังไม่ยืนยัน เพราะอยู่ในระหว่างตรวจสอบ
จากเหตุการณ์เสียชีวิตในลักษณะคล้ายนี้ ทำให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้เรียกประชุมด่วนนายตำรวจที่ดูแลด้านปราบปรามยาเสพติด พร้อมผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรับทราบข้อมูลของสารเสพติดที่เรียกกันว่า เคนมผง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่าเคนมผง มีสารประกอบชนิดใดบ้าง โดยรอผลการวิเคราะห์แยกสารที่จะชัดเจนวันพรุ่งนี้ แต่สั่งการให้ทุกกอง สังกัดที่เกี่ยวข้องเร่งหาคำตอบ ตั้งแต่แหล่งผลิต ที่มา ผู้จำหน่าย และความเชื่อมโยงของผู้ใช้สารเสพติดแล้วเสียชีวิตทั้ง 2 ท้องที่ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ที่ผ่านมามีข้อมูลว่าสารเสพติดชื่อ เคนมผง เดิมเป็นชนิดน้ำ ก่อนนำไปผ่านขั้นตอนเวฟให้เป็นผงก่อนสูดดม นำเข้าจากบริเวณจังหวัดสระแก้ว เคยจับได้ต้นเดือนกันยายน ปี 63 บางกรณีพบใช้ยาแก้ปวดบดเจือผสม เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ส่งแถบตะวันออกกลาง
ขณะที่การหาคำตอบของสารประกอบในยาเสพติด พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังสั่งให้ไปหาแหล่งจำหน่ายของงสารประกอบที่ต้องสงสัยด้วย เพราะสารบางชนิด ใช้ในทางการแพทย์ อยู่ในยาที่เป็นยาควบคุม ที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ในการซื้อ// ส่วนการตรวจสอบส่วนผสมสารเสพติด คาดพรุ่งนี้ทราบผล