กระทรวงการประมงของญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 59 เรือเพื่อการวิจัยของ ”สถาบันวิจัยสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งญี่ปุ่น” จำนวน 4 ลำ ได้เดินทางกลับจากมหาสมุทร ”แอนตาร์กติกา” โดยสามารถฆ่าและนำซาก ”วาฬมิงค์” กลับมาได้ถึง 333 ตัว ส่วนใหญ่เป็นวาฬเพศเมีย และในจำนวนนี้มีถึง 200 ตัวที่กำลังตั้งท้อง
ในรายงานของกระทรวงการประมงของญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่าการล่าวาฬครั้งนี้ก็เพื่อศึกษาชีวิตของวาฬ เพื่อที่จะได้สามารถจัดการ และควบคุมประชากร ”วาฬมิงค์” ในแถบมหาสมุทร”แอนตาร์กติกา” ให้มีสมดุล
ทางด้านกลุ่มกรีนพีซ รวมถึงผู้แทนจากอีกหลายประเทศ ต่างแสดงความกังวลว่าญี่ปุ่นกำลังล่าวาฬเพื่อการค้า แต่ใช้การวิจัยมาบังหน้า
ทั้งนี้ญี่ปุ่นอาศัยช่องว่างของกฏหมายสากล ที่อนุญาตให้ล่าวาฬเพื่อการศึกษาวิจัยได้ แต่ในปี 2014 ที่ผ่านมา “ศาลยุติธรรมสากลแห่งสหประชาชาติ” มีคำสั่งให้ญี่ปุ่น ยุติโครงการวิจัยวาฬ เนื่องจากเกรงว่า ”วาฬมิงค์” ในมหาสมุทรแอนตาร์คติก จะสูญพันธุ์ แต่ญี่ปุ่นกลับเพิกเฉย และยังคงเดินหน้าล่าวาฬอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการวิจัยวาฬของญี่ปุ่นนี้ เริ่มต้นเมื่อปี 2014 โดยมีจุดๆประสงค์เพื่อการล่าวาฬมิงค์รวม 4,000 ตัว ในระยะเวลา 12 ปี