วันนี้ (12 เม.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ออกรายงานคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (EAP Update) วานนี้ (10 เม.ย.) โดยระบุว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้จะเติบโตเพียง 2.5% ลดลงกว่าในปี 2558 ที่เศรษฐกิจเติบโต 2.8%
โดยธนาคารโลกระบุว่า การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่ลดลงนั้น มีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ เศรษฐกิจจีนเติบโตลดลง และสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยหากเศรษฐกิจจีนหดตัว จะทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบทั้งด้านการค้าและการเงิน
เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้าที่มีสัดส่วนถึง 12% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย และลงทุนทางตรงคิดเป็น 8% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอ ของไทย ส่วนการเมืองในประเทศในช่วงปฏิรูปการเมืองนี้ หากไม่เป็นที่พอใจของประชาชนส่วนใหญ่ ก็มีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะรุนแรง นำไปสู่การประท้วง มีผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภคและนักลงทุน
สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ธนาคารโลกประเมินว่าจะชะลอตัวลง เหลือขยายตัว 6.3% ในปีนี้ จากการขยายตัว 6.5% ในปี 58 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจีนจะมีอัตราการเติบโตลดลงเหลือ 6.7% จากการขยายตัว 6.9% ในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้หากไม่นับรวมประเทศจีน ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค จะมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 4.8% โดยประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามมีแนวโน้มจะเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่า ฟิลิปปินส์ จะเติบโต6.4% เวียดนาม เติบโต 6.2% และ อินโดนีเซียเติบโต 5.1%