กรณีเกิดเหตุรถยนต์ชน “แม่ลิง” และ “เก้ง” ตายกลางถนนในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่วานนี้ ยังคงเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่และนักอนุรักษ์ กล่าวถึงต้นเหตุของการสูญเสียในครั้งนี้ ซึ่งเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวละเลย และไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะการจำกัดความเร็วในการขับขี่ และการให้อาหารสัตว์บริเวณถนน เพื่อป้องกันการพุ่งชนสัตว์ป่าที่อาศัยในเขตอุทยานแห่งชาติฯ
โดยลำดับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.59) เริ่มจากเมื่อเวลา 08.40 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งว่ามีลิงแม่ลูกอ่อนถูกรถชนบริเวณถนนสาย 3077 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 31-31 จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากแม่ลิงตายอยู่กลางถนน ใกล้กันนั้นมีลูกลิงร้องอยู่กับซากแม่ ส่วนลูกลิงฝูงได้รับกลับเข้าฝูงและกลับคืนสู่ป่า
หลังจากนั้นไม่นาน เวลา 09.10 น. เจ้าหน้าที่พบเก้งเพศเมีย 1 ตัว ถูกรถชนบนถนนสาย 2090 หลักกิโลเมตรที่ 38 บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร แต่ไม่ทราบยานพาหนะที่พุ่งชน จึงทำการปฐมพยาบาลแต่ต่อมาเก้งตัวดังกล่าวได้เสียชีวิตลง
เฟซบุ๊กแฟนเพจ ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า เหตุการณ์สะเทือนใจแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น หากนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ตระหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา หลายต่อหลายครั้งที่เราพบเห็นการให้อาหารสัตว์ขณะรถแล่นผ่าน ซึ่งอาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่นั่นคือสิ่งที่จะทำให้สัตว์ป่าได้รับอันตรายถึงชีวิต เพราะมันรู้แค่ว่าตรงถนนมีอาหาร แต่มันไม่รู้ว่ารถที่ผ่านไปมาจะทำให้มันได้รับอันตราย ขอความร่วมมือทุกท่านหยุดให้อาหารสัตว์ป่าบริเวณถนน เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเหมือนกับเหตุการณ์สะเทือนใจในครั้งนี้
ขณะที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ผู้พิทักษ์ป่าไทย ระบุถึงแนวทางที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการประชาสัมพันธ์รณรงค์ไม่ให้ นักท่องเที่ยวให้อาหารสัตว์โดยเฉพาะลิง ตามโครงการ 4 ม. ได้แก่ ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า ไม่ทิ้งขยะ ไม่ขับรถเร็ว และไม่ส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่าและผู้อื่น โดยการติดป้ายประชาสัมพันธ์ และแจกแผ่นซีดีให้รถที่ขับขี่ในเขตอุทยานฯ เปิดฟังเพื่อได้รับทราบข้อปฏิบัติ รณรงค์การใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. และระมัดระวังเมื่อเห็นสัตว์ป่าอยู่ข้างทางให้ชะลอความเร็ว
รวมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจป้อมยาม ป้อมเขาเขียว ป้อม ฮ. และชุดเจ้าหน้าที่ป้อมระวังไพร ประชาสัมพันธ์การขับขี่ยานพาหนะของนักท่องเที่ยวให้ลดความเร็วลง และห้ามให้อาหารสัตว์ป่าเพื่อความปลอดภัยของสัตว์ป่าที่ข้ามถนน นอกจากนี้ยังได้จัดชุดสายตรวจเคลื่อนที่เร็ว ลาดตระเวนตามถนนเตือนและจับปรับผู้ขับขี่รถเกินเกณฑ์ที่อุทยานกำหนด พร้อมผลักดันลิงหรือสัตว์ป่าอื่นๆ กลับเข้าสู้ป่าโดยมิให้มาอยู่ตามข้างถนน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ
ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
