วันนี้ (1 ส.ค.59) กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบรถยนต์จดประกอบจากอุปกรณ์ชิ้นส่วนเก่าราคาสูง ตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 548 คัน และได้ส่งเรื่องให้กรมศุลกากรพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมแล้ว โดยกรมศุลกากรพบ รถ 8 คัน หลีกเลี่ยงภาษี จึงประเมินราคาและเรียกเก็บภาษีอากรในส่วนที่ขาดไป รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท
หลังจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานกับกรมศุลกากร ให้พิจารณาเรียกเก็บภาษี จากรถยนต์จดประกอบเพิ่มเติม พร้อมดำเนินคดีทางแพ่งและทางอาญาฐานความผิด ร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษี ตามพระราชบัญญัติศุลกากร มีโทษปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาภาษีที่ขาด หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ส่วนคดีอาญาเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เบื้องต้นดีเอสไอได้สืบสวนกับผู้นำเข้ารถยนต์ผิดกฎหมายแล้วและเตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่มีความผิดตามกฎหมายมาดำเนินคดี
สำหรับผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบ คณะทำงานร่วม 7 หน่วยงาน เห็นพ้องกันว่า เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจะไม่ถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย แต่จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมหากพบว่าหลีกเลี่ยงภาษีจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคดีรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า อยู่ระหว่างเร่งรัดให้ กรมสรรพสามิต รวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่คดีรถหรูของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนดำเนินคดี