กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบรถยนต์จดประกอบราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป 548 คัน เบื้องต้น มีรถหรู 8 คัน หลีกเลี่ยงภาษี จึงส่งให้กรมศุลกากรดำเนินการเก็บภาษีเพิ่มเติม ในส่วนที่ขาดไป เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท
หลังจากนี้ดีเอสไอจะดำเนินคดี ฐานร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษี ตามพระราชบัญญัติศุลกากร 2469 ปรับ 4 เท่าของราคาภาษีที่ขาด หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ส่วนคดีอาญาดี เอสไอ รับเป็นคดีพิเศษแล้ว สำหรับผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบ เข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย จะไม่ถูกดำเนินคดี แต่ดีเอสไอจะตรวจสอบเอกสารเพิ่ม หากหลีกเลี่ยงภาษี ก็จะถูกดำเนินคดี
สำหรับคดีรถยนต์โบราณของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และรถของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดี
ขณะที่นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความวัดปากน้ำภาษีเจริญ ชี้แจงว่า สมเด็จช่วง เกี่ยวข้องกับรถหรูโบราณ ไม่มากนัก เป็นเพียงผู้รับบริจาค การแถลงข่าวของดีเอสไอ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีความชอบธรรมหรือไม่ เพราะยังไม่มีการประชุมร่วมอัยการ ทำให้เกิดความเสียหายกับสมเด็จช่วง ซึ่งฝ่ายกฎหมาย จะเตรียมหลักฐานดำเนินการตามต่อไป