วันนี้ (13 ก.ย. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดพิจิตร วันนี้ นายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพิจิตร เผยได้มีการเร่งระบายน้ำยมลงสู่แม่น้ำน่าน โดยยกบานประตูทั้ง 4 บานในอัตรา 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับน้ำเหนือและพายุดีเปรสชั่นตามแผนบริหารจัดการน้ำแล้ว เพื่อรักษาระดับน้ำในแม่น้ำยม ไม่ให้เกิดการล้นตลิ่ง ที่อาจจะมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยมในจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดพิจิตร
ขณะที่ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทองเร่งนำรถดิน และรถแบคโฮ เสริมแนวคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร บริเวณหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านแห ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดปัญหาดินทรุดตัวและทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยทางเจ้าหน้าที่เร่งเสริมแนวคันกั้นน้ำให้กว้างและมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับน้ำเหนือระลอก 2 จากพายุดีเปรสชั่นที่จะเข้าไทยคืนวันนี้
ด้านนายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร คาดพายุดีเปรสชั่น ราอี ที่จะเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยจะทำให้กรุงเทพมหานครมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 13 ถึง 14 กันยายนนี้ด้วย ทางสำนักระบายน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องควบคุมระดับน้ำในคลองสายหลักให้มีระดับต่ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนดังกล่าว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสารในคลองสายหลัก เช่น คลองแสนแสบ คลองชักพระ คลองดาวคะนอง คลองบางกอกใหญ่ คลองภาษีเจริญ โดยจะเริ่มลดระดับน้ำ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้
ขณะที่บริเวณท่าเทียบเรือประมง ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ชาวประมง เร่งนำเรือประมง เข้ามาจอดเทียบท่าเพื่อขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำที่จับมาได้ส่งให้กับแพปลา โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ ก่อนที่จะนำเรือเข้าจอดท่าเพื่อความปลอดภัยในการออกเรือไปทำการประมง เพราะเสี่ยงเรือประมงอาจถูกคลื่นซัดอับปางกลางทะเล หลังกรมอุตุฯเตือน คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะสูงถึง 2-3 เมตรในช่วงวันที่ 13-18 กันยายนนี้
