บางกรณีรุนแรงถึงขั้นเป็นการล่าแม่มด หลังจากผู้คนจำนวนไม่น้อยพลั้งเผลอใช้ความรุนแรง กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายดูหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งหลายกรณีพบว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนั้น มีอาการป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia)
สำหรับวิธีการสังเกตอาการของผู้ป่วยจิตเภท ซึ่งมักไม่สามารถควบคุมการกระทำ หรือความคิดของตนเองได้นั้น เพื่อป้องกันการด่าทอหรือทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น ในห้วงเวลาแห่งความเศร้าโศกเสียใจ
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ป่วยจิตเภทคือผู้ที่มีความผิดปกติของความนึกคิด พฤติกรรม และอารมณ์ มักจะเสียความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง เช่น เฉยเมย ไม่ยินดียินร้าย ไม่สนใจ และไม่แสดงปฏิกิริยาทางอารมณ์ ขาดความสนใจและความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ไม่สนใจโลกภายนอก เช่น ใครจะรักกัน ไฟจะไหม้ที่ใดก็ไม่รับรู้ บางรายเอะอะ อาละวาด หยาบคาย ก้าวร้าว หรือพูดจาเลอะเทอะไม่ได้ใจความ หรืออาจไม่พูดเลยคล้ายเป็นใบ้ ไม่ยอมรับประทานอาหาร ไม่ยอมเคลื่อนไหวเหมือนรูปปั้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ป่วยจิตเภทไม่จำเป็นต้องมีอาการหลายอย่างร่วมกัน บางคนอาจแสดงอาการผิดปกติ ให้เห็นเพียงอย่างเดียวหรือสองอย่าง เช่น อาจมีเพียงอาการหลงผิดชนิดระแวงร่วมกับหูแว่ว โดยยังคงประกอบกิจวัตรประจำวันได้เช่นปกติ และพูดคุยได้เรื่องราวดี บางคนอาจเพียงแต่แยกตัวเอง เฉื่อยเฉยไม่ทำงาน ไม่ยินดียินร้าย แต่ไม่เอะอะอาละวาด วุ่นวาย และไม่ประสาทหลอนหลงผิด ดังนั้น การสังเกตผู้ป่วยจึงค่อนข้างซับซ้อน และต้องอาศัยความเข้าใจอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เนื่องจากตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา ข่าวการทำร้ายร่างกายและล่าแม่มด ปรากฎบนสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวล เกี่ยวกับความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยล่าสุด พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหล่านี้ว่า “ขอให้ประชาชนรู้จักให้อภัยแก่กันและกันโดยเฉพาะผู้ที่เห็นต่าง เพราะการโพสต์ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีกฎหมายเอาผิดอยู่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ และระมัดระวังการส่งต่อข้อมูลที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง”
