นับเฉพาะเวลาอันใกล้ กระแส #แอร์กราบ #นักเรียนกราบ ยังไม่ทันจางหายไปจากสังคมไทย ล่าสุดวานนี้กระแส #กราบรถกู ผุดขึ้นอีกครั้ง จากพฤติกรรมที่อาจเรียกได้ว่า ขาดการยับยั้งชั่งใจและขาดสติ ก่อให้เกิดเป็นกระแสดังทั่วโซเชียลมีเดียไทย
พฤติกรรมหัวร้อนแบบนี้ ไม่ใช่กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก และคงไม่ใช่กรณีสุดท้ายในสังคมไทย แต่.. ก่อนที่เหตุการณ์ในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้น เราคนไทยอาจต้องรู้สักนิดว่า ความหมายและจุดประสงค์ของการกราบไหว้คืออะไร กราบแล้วอารมณ์จะดีขึ้นไหม รอยที่รถมินิจะหายไปใช่หรือไม่ ต้องอ่าน...
เว็บไซต์นักธรรม ระบุว่าความหมายและจุดประสงค์ในการกราบไหว้ แบ่งออกเป็น 4 ข้อ ดังนี้
1.ไม่ใช่ขอความคุ้มครองอย่างงมงาย
ชาวโลกได้แต่ร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอง ไม่คิดบำเพ็ญกุศลเพื่อหลุดพ้น จากทะเลทุกข์แห่งการเกิดตาย อย่างนี้เป็นการคล้อยตามแบบงมงาย เพราะหากหลักธรรมญาณยังลุ่มหลง แสวงบุญก็ไร้ประโยชน์ ไร้มโนสำนึกร้องขอแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
2.แสดงความสำนึกคุณ
ขอบพระคุณฟ้า ดิน กษัตริย์ บุพการี และครูบาอาจารย์ ขอบพระคุณบารมีธรรมของพระพุทธอริยเจ้า ซาบซึ้งภายในจึงต้องแสดงออกมาให้เห็นภายนอก คนทั่วไปเหนื่อยยากลำบากเพื่อลูกหลาน จนสุดท้ายตายจากไปอย่างไร้ค่า เหมือนการเกิดของต้นหญ้าไม่มีใครสนใจ พระโพธิสัตว์กวนอิมไม่มีบุตร แต่พระองค์ทรงดำเนินชีวิตในการฉุดช่วยเวไนยสัตว์ จวบจนวันนี้จึงมีแต่คนระลึกถึงท่านตลอด
3.อาศัยการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย้อนมองสำรวจตน
ภายนอกมองดูพระพุทธรูป ภายในส่องถึงจิตเข้าถึงธรรมญาณที่อยู่ตรงหน้า พระพุทธะสถิตอยู่ที่เขาคิชกูฏ เขาคิชกูฏพบได้ในใจตน ทุกคนต่างมีเจดีย์แห่งเขาคิชกูฏต่างกำหนดมรรคผลได้ใต้นี้เอง
4. เจริญรอยตามปฏิปทาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คนโบราณกล่าวว่า "ไหว้พระไม่เทียบเท่าเจริญรอยตามพระ" เดิมทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มาจากปุถุชน กลัวแต่ว่าใจปุถุชนจะไม่แน่วแน่พอ พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า "เวไนยสัตว์ล้วนมีพุทธภาวะแต่เป็นเพราะกิเลสที่จรมาทำให้ไม่อาจบรรลุได้" ฉะนั้นเราจึงเรียก "ปุถุชนที่รู้แจ้งว่าพุทธะ และพุทธะที่ลุ่มหลงว่าปุถุชน"
ทราบอย่างนี้แล้ว ก่อนสั่งให้ใครกราบไหว้ครั้งต่อไป คงมีเหตุผลเพียงพอมากกว่า อารมณ์โกรธชั่ววูบ !
