ฟอเรสต์ เทรนด์ (Forest Trend) ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังและตรวจสอบการสูญหายของป่าสากล เปิดเผยรายงานที่น่าตกใจว่า ในช่วงระหว่างปี 2001-2014 กัมพูชาสูญเสียพื้นที่ป่าเฉลี่ยปีละ 14.4 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเนื้อที่กว่า 9 ล้านไร่ เฉพาะในช่วงเวลาดังกล่าว
ตัวเลขที่สูงนี้ ทำให้กัมพูชากลายเป็นประเทศที่สูญเสียเนื้อที่ป่ามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และมากที่สุดในจำนวนสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ คือมากกว่าเวียดนามและมาเลเซีย ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ซึ่งสูญเสียป่าในอัตรา 6.1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
รายงานฉบับนี้มีหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ถือภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การนาซ่า ที่เผยให้เห็นว่า มีการตัดไม้ทำลายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด ”กัมปงทม” กับจังหวัด ”กัมปงจาม”
สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่ามากมายขนาดนี้ ก็คือการให้สัมปทานแก่บริษัทด้านการเกษตร อย่างเมื่อปี 2013 เพียงปีเดียว มีการมอบสัมปทานพื้นที่ป่าให้กับบริษัทเอกชนไปมากกว่า 16 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของพื้นที่ป่าทั้งประเทศ ซึ่งในรายงานบอกว่า การให้สัมปทาน เกือบทั้งหมดจะมีนักการเมืองและข้าราชการเข้าไปมีผลประโยชน์ด้วย
ขณะเดียวกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ของบรรดาพ่อค้าไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ป่าไม้ในกัมพูชาหดหายไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะได้รับเงินช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติเพื่อใช้ในการพิทักษ์ป่าก็ตาม