ปักกิ่งในความรู้สึกที่สัมผัสได้นั้นกลับไม่ได้เป็นเพียงเมืองใหญ่ที่มีชีวิตชีวา น่าค้นหา และถูกขับเคลื่อนด้วยเงินมหาศาล แต่ทว่า ยังเป็นเมืองใหญ่ที่ขลังไปด้วยพลังแห่งวัฒนธรรมและความเป็นจีนในแบบที่ไม่มีใครเหมือน ดังเช่นหอสักการะฟ้า สถานที่สำคัญตั้งแต่อดีต สู่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครก็ต้องมาเยือน แต่ภาพประทับใจคือการเห็นผู้สูงวัยรวมตัวกันเล่นกีฬาบัตร (ไพ่) กันอย่างออกรสออกชาติ
สนามกีฬาโอลิมปิค เมื่อ ปี 2008 สถานที่สำคัญ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของพี่น้องชาวจีน เพราะเป็นมรดกจากการประกาศให้รับรู้ว่า จีนคือพี่ใหญ่คนหนึ่งในสังคมโลก ด้วยการเป็นเจ้าภาพกีฬาของชาวโลก
ยังไม่นับรวมย่านการค้าใจกลางเมือง หรือ แม้แต่ชุมชนโบราณที่เรียกกันว่าหูต่ง ซึ่งทุกวันนี้ก็กลายเป็นสถานที่เที่ยวแบบชิคชิคคูลๆ แนวเดียวกับ เชียงคาน หรือปาย แต่ละวันมีชาวจีนไม่รู้เท่าไหร่มาใช้เวลาหย่อนใจและใช้เงินแบบไม่ลืมหูลืมตา
สิ่งสำคัญจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ตลอด 4 วัน 3 คืน ในปักกิ่ง เราเดินทางไปนั่นมานี่ได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีโครงข่ายครอบคลุมทั้งเมือง ระบบทันสมัย มีเวลาแน่นอน รอไม่ถึง 1 นาที ขบวนใหม่ก็มา ในราคาที่ ถูกมากหากเทียบกับการเดินทางแบบเดียวกันในบ้านเรา นั่งคิดดูเอาเองว่านี่อาจเป็นเพราะจีน มีคนเยอะ ถ้า ขนส่งสาธารณะ ราคาแพง ก็จะนั่งได้เฉพาะคนที่พอมีกำลังทรัพย์ แล้วคนรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำจะทำอย่างไร ก็อาจเป็นเหตุผลที่การโดยสารรถไฟใต้ดินในจีนราคาถูกพอๆกับนั่งรถเมล์ในบ้านเรา
4 วัน 3 คืน ยังเห็นปักกิ่งไม่หมด แต่ก็มากพอให้หลงรักปักกิ่งได้
โปรดติดตามตอนต่อไป เราจะขึ้นรถไฟทรานส์ มองโกเลีย จากปักกิ่งข้ามชายแดนมาอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ที่ที่จะได้ใช้ชีวิตติดลบแบบจริงจัง
“ปักหมุดสุดขอบโลก”
----- ///// -----