นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.ได้เพิ่มบทบาทไปยังภูมิภาคตามหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติ โดยเฉพาะการเดินหน้าแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ปี 60-64 และแนวทางแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่าน 5 เรื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบ, เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ, ลดภาระหนี้นอกระบบโดยการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้, เพิ่มศักยภาพของลูกหนี้นอกระบบ
ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรการเงินชุมชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กระทรวงการคลังได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบเพิ่มขึ้น โดยการอนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) ช่วยให้ประชาชนไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบอีก
สำหรับการปฏิบัติ จะมีธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายครัวเรือน เพื่อสร้างวินัยในการออมและการใช้จ่ายของประชาชน และเป็นส่วนช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบให้กลับเข้าในระบบ พร้อมทั้งดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ เช่น โครงการเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งที่เป็นลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ ที่มีแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้มีแหล่งเงินทุนและมีที่ปรึกษาในการทำธุรกิจ
