หากเปรียบเทียบกับการแพร่ระบาดของหนอนหัวดำในทุกๆ ปี ปีนี้ถือว่าชาวสวนมะพร้าวในจังหวัดสมุทรสงครามได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทำให้ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว มาจนถึงปัจจุบัน แม้เกษตรกรจะใช้สารเคมีฉีดพ่น หรือทำทุกวิธี ปริมาณหนอนก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกัดกินต้นมะพร้าวจนยืนต้นตาย จรูญ แถบเงิน เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลดอนมะโนราห์ อำเภอบางคนที ชี้ให้เราดูภาพความเสียหายที่เกิดจากหนอนหัวดำ ซึ่งเขาเองเมื่อเห็นภาพดังกล่าวก็รู้สึกท้อใจ เพราะกว่าจะปลูกมะพร้าวจนมีผลผลิต ต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 ปี มาตอนนี้ต้นมะพร้าวที่กำลังออกผลกลับกำลังยืนต้นตายไปตาม ๆ กัน
หนอนหัวดำจะมีระยะที่ทำลายกัดกินใบมะพร้าวอยู่ในช่วงที่เป็นตัวหนอน มีอายุในช่วงนี้ตั้งแต่ 32-48 วัน ต้นมะพร้าวที่ถูกหนอนหัวดำทำลายจะมีใบแห้งและสีน้ำตาล ผลผลิตลดลง หากการทำลายรุนแรงก็ทำให้ต้นตายได้ โดยหนอนหัวดำอาจแพร่กระจายด้วยการติดไปกับต้นกล้ามะพร้าว หรือปาล์มประดับ ผลมะพร้าวหรือส่วนใบ ทำให้ชาวบ้านต้องฉีดพ่นสารเคมีตามใบมะพร้าว แต่ต้นมะพร้าวที่สูงก็จะไม่สามารถฉีดสารเคมีได้ เราจึงพบว่าต้นมะพร้าวประเภทนี้ จะถูกหนอนหัวดำทำลายมากกว่า จึงจำเป็นต้องใช้การฉีดสารทางลำต้นแทน
ความเสียหายจากการแพร่ระบาดของหนอนหัวดำในจังหวัดสมุทรสงครามกินพื้นที่กว่า 1000 ไร่ สาเหตุมาจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และไม่มีคนดูแลสวน โดยทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม ได้สำรวจและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้โดยตลอด พร้อมทั้งยังได้มีการเตรียมการจัดหาเชื้อบีที ที่จะกำจัดหนอนหัวดำ และแรงงานเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน
ด้วยปริมาณการระบาดที่แพร่กระจายในวงกว้างของหนอนหัวดำ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม อยากวอนให้เกษตรกรเอาใจใส่และปฏิบัติตามคำแนะนำของเกษตรจังหวัด เบื้องต้นได้มีการหารือกันกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อของบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์และจ้างแรงงานคนมาช่วยเกษตร ก่อนชาวสวนมะพร้าวที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวอีกหลายสวนยังคาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนที่ต้นมะพร้าวจะล้มตายไปหมด
