วันนี้ (28 ก.พ. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธิป ไชยยศ ช่างภาพอาสา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือสัตว์ป่า และเป็นอาสาสมัครของอุทยานที่คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการทำงานดูแลสัตว์ป่า เปิดเผยถึงเหตุการณ์กรณีหมีควายตกจากเฮลิคอปเตอร์ ขณะขนย้าย โดยระบุว่า ภารกิจเริ่มต้นขึ้นโดยได้มีการวางแผนและประชุมว่าการปล่อยหมีจะใช้ เฮลิคอปเตอร์ในการลำเรียงหมีควายที่มีน้ำหนัก 80 กิโลกรัม ไปปล่อยในป่าลึก เพราะเนื่องจากเส้นทางในการเดินทางรถไม่สามารถไปได้ และที่สำคัญการปล่อยหมีคืนสู่ป่าก็เคยใช้เฮลิคอปเตอร์ในการทำภารกิจมาแล้ว
โดยขณะที่เฮลิคอปเตอร์บินถึงบริเวณน้ำตกนางรอง เฮลิคอปเตอร์ตกหลุมอากาศ ทำให้แรงเหวี่ยงของหมีควายน้ำหนัก 80 กิโลกรัม ที่อยู่ในตาข่ายใต้ท้อง เกิดอาการเหวี่ยงอย่างรุนแรงจนทำให้นักบินพยายามที่จะควบคุมเครื่อง และประคองการทรงตัวโดยลดระดับการบิน แต่อาการเหวี่ยงใต้ท้องเครื่องยังไม่หยุด จากนั้นมีความรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างหลุดร่วงลงไป จึงทำให้คิดว่าแรงเหวี่ยงทำให้ตะขอหรืออะไรซักอย่างหลุด เมื่อนักบินนำเครื่องกลับมาลงจอดพบว่าสลักตะขอหลุดอ้าออก จึงน่าจะเกิดจากแรงเหวี่ยงทำให้อ้าและเป็นเหตุให้หมีหลุดร่วง
เบื้องต้นก็ได้มีการรายงานตามลำดับชั้น ถึงปัญหา ยืนยันในฐานะที่ตัวเองเป็นทั้งสื่อ และเป็นทั้งอาสาสมัครในการทำงานช่วยเหลือสัตว์ป่า ว่าการทำงานมีการวางแผนและรอบคอบ นักบินทำหน้าที่ได้ดี สัตว์แพทย์ทำตามขั้นตอนประเมินอาการวางยาหมี หมีไม่ได้ลุกขึ้นมาฉีกตาข่ายอย่างที่เป็นข่าว และนักบินเองก็ไม่ได้ตัดตาข่าย เนื่องจากตาข่ายอยู่ใต้ท้องไม่มีใครปีนลงไปตัดได้ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของระบบที่มีการเซฟตัวเมื่อเกิดแรงเหวี่ยงรุนแรงจึงทำให้หลุด
ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงการทำงาน ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และไม่มีใครคาดเดาสภาพอากาศได้ ครั้งนี้ที่ตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดออกมาเปิดเผยเพื่ออยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจในการทำงานของทีม เพราะการดำเนินการในครั้งนี้เพราะหวังที่จะติดตามเส้นทางหากินของหมี เพื่อนำมาเป็นแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องของหมีที่ลงมาในพื้นที่ชุมชน
