หลายประเทศมีการจัดกิจกรรม เพื่อรำลึกถึงวันสตรีสากล ซึ่งมีทั้งการเฉลิมฉลอง ไปจนถึงการชุมนุมประท้วง เพราะเห็นว่า ผู้หญิงยังไม่มีสิทธิมีเสียงและตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายอยู่ อย่างที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก็มีสตรีกลุ่มหนึ่ง ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้อำนาจความเป็นจักรวรรดินิยม เอารัดเอาเปรียบสตรีในฟิลิปปินส์
ส่วนที่ประเทศออสเตรเลีย ก็มีการติดตั้งสัญญาณคนข้ามถนน บริเวณสี่แยกแห่งหนึ่งใฝนนครเมลเบิร์น ที่ปกติเป็นรูปผู้ชาย ก็เปลี่ยนเป็นรูปผู้หญิงแทน จุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ
ข้ามไปที่ประเทศบังคลาเทศ ก็มีการจัดแสดงแฟชั่นโชว์ แต่ที่พิเศษก็คือ ผู้จัดนำเอาบรรดาสตรีที่เคยถูกทำร้ายด้วยการสาดน้ำกรดมาเป็นนางแบบ ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า”นิยามใหม่แห่งความงาม” โดยมีจุดประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงที่มีความงาม ไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาหรือรูปร่างที่สวยงามเท่านั้น ผู้หญิงทุกคนก็มีความสวยงามอยู่ในตัวเท่าๆ กัน
ขณะเดียวกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เกิดเหตุไฟส่องสว่างบริเวณเทพีเสรีภาพ ในมหานครนิวยอร์กดับมือสนิท ทำให้หลายคนสงสัยว่า จะเกี่ยวข้องอะไรกับวันสตรีสากลหรือไม่ เป็นความจงใจของใครบางคน หรือเป็นเพียงความบกพร่องของระบบจ่ายไฟ แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มเพื่อสิทธิสตรีจะไม่สนใจ และเดินหน้าเตรียมการให้ผู้หญิงออกมาชุมนุมกันทั่วประเทศในวันนี้ โดยตั้งชื่อว่า หนึ่งวันที่ปราศจากผู้หญิง เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผู้หญิงที่มีต่อสังคม และโลกจะเป็นอย่างไรถ้าขาดผู้หญิงไปจริงๆ
สำหรับวันสตรีสากล มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1909 ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ ก่อนจะเริ่มเป้นรูปเป็นร่างจริงจังขึ้นมาที่ประเทศรัสเซียในวันที่ 8 มีนาคม ปี 1917 หรือ 100 ปี ก่อนพอดี แต่สหประชาชาติประกาศรับรองวันนี้อย่างเป็นทางการในปี 1975