นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือ มิวเซียมสยาม เปิดเผยในงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ว่า ในปีนี้ มิวเซียมสยามมีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริมสังคมไทยให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ระดับอาเซียน เพื่อพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไทยให้สากลยอมรับ
สำหรับโครงการดังกล่าวจะดำเนินการยกระดับพิพิธภัณฑ์ ผ่านโมเดลการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ รวม 9 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการวางแผนพิพิธภัณฑ์ ,ด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ,ด้านการจัดการวัตถุพิพิธภัณฑ์ , ด้านอนุรักษ์วัตถุพิพิธภัณฑ์ , ด้านการจัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ , ด้านจัดทำโปรแกรมการเรียนรู้และกิจกรรมสร้างสรรค์ในพิพิธภัณฑ์ , ด้านการตลาดในพิพิธภัณฑ์ , ด้านการบริการผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ และด้านการบริหารจัดการพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในพิพิธภัณฑ์
ทั้งนี้ มิวเซียมสยามเตรียมพัฒนาต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ถึง 4 แห่ง ได้แก่ วันชลประทานรังสฤษฏ์ (พระอารามหลวง) จ.นนทบุรี ให้เป็นต้นแบบพิพิธภัณฑ์เชิงศาสนาและวัฒนธรรม , องค์การบริหารส่วนตำบลมะคาบ จ.พิจิตร เพื่อพัฒนา พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ ให้เป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ , การยางแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาศูนย์การเรียนรู้การยางแห่งประเทศไทยให้เป็นต้นแบบพิพิธภัณฑ์เชิงนวัตกรรมและธุรกิจ และ บริษัท ศรีบ้านโป่ง มาร์เก็ต จำกัด จ.ราชบุรี เพื่อพัฒนา ศูนย์การเรียนรู้ฟิช วิลเลจ จ.ราชบุรี
นอกจากนี้ มิวเซียมสยามได้ร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ ผ่านการจัดเสวนาฝึกอบรมบุคลากรพิพิธภัณฑ์ให้มีความรู้และทักษะที่สำคัญต่อการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพแล้วกว่า 1,257 คน จากพิพิธภัณฑ์ 558 แห่ง รวมทั้งพัฒนาหน่วยงานเครือข่ายที่มีความพร้อมสู่การเป็นต้นแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อว่าการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ในครั้งนี้ จะทำให้วงการพิพิธภัณฑ์ไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้มากขึ้น และ ศักยภาพของบุคลากรในพิพิธภัณฑ์จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้านนายสมพร เล็กอุทัยพานิช ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลป่ามะคาบ จ.พิจิตร กล่าวว่า การเข้าร่วมเป็นเครือข่ายพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ในครั้งนี้ มิวเซียมสยามจะช่วยพัฒนาและยกระดับพิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์ ไปสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่มีความสมบูรณ์ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและอาเซียนอย่างภาคภูมิใจ
