นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ หนึ่งในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ พร้อมกับนางสาวณัฏฐา มหัทธนา เดินทางเข้าแจ้งความกรณีหมุดคณะราษฎรสูญหาย ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต โดย ทั้ง 2 ระบุว่าเป็นการเคลื่อนไหวในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือองค์กรใด
น.ส.ณัฏฐา อ้างข้อมูลตาม พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่นิยามคำว่า โบราณวัตถุ ว่า เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของโบราณ มีทั้งแบบที่ประดิษฐขึ้นหรือเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่ต้องเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ในเชิงศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี และมีประวัติการเกิดขึ้นของสังหาริมทรัพย์นั้นๆ นอกจากนี้โบราณวัตถุตามปกติยังมีทั้งแบบที่ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรและแบบที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน นี่ทำให้พวกเขามองว่า หมุดคณะราษฎรเข้าข่าย โบราณวัตถุที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
สำหรับการเข้าแจ้งความดำเนินคดี แม้ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะระบุว่า ตำรวจไม่สามารรับแจ้งความได้หากผู้แจ้งไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน แต่ที่สน.ดุสิตวันนี้ตำรวจก็รับแจ้งความและหลังจากนี้จะนัดสอบปากคำนายอภิสิทธิ์และนางสาวณัฐฐาต่อไป
ขณะที่ กิจกรรมที่จัดขึ้นวันนี้ กำหนดการเดิม หลังเสร็จสิ้นการแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต ทั้งหมดจะเดินทางไปดูกล้องวงจรปิดที่ลานพระราชวังดุสิต จุดที่เป็นที่ตั้งของหมุดคณะราษฎร จากนั้นจะไปทำเรื่องขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ศาลาว่าการกทม. แต่ตำรวจขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยให้เหตุผลว่า กทม.มีข้อมูลกล้องวงจรปิดครบถ้วนอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไปที่จุดเกิดเหตุ โดยหลังใช้เวลาทำความเข้าใจร่วมกันเกือบ 1 ชั่วโมง ตำรวจนำรถตู้อำนวยความสะดวกโดยพาทั้งหมดไปส่งที่ศาลาว่าการกทม.
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้ง 2 คนเดินทางไปถึง นายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าพูดคุยด้วย พร้อมระบุ ยินดีให้ความร่วมมือ หากต้องการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะประชาชนสามารถขอดูภาพได้ โดยในพื้นที่รอบลานพระราชวังดุสิต มีกล้องวงจรปิด 11 ตัว ที่อยู่ในจุดเห็นหมุดคณะราษฎร แต่เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา กทม.ได้รับการประสานงานจากสำนักการจราจรและขนส่ง ขอปรับปรุงสัญญาณไฟจราจรบริเวณนั้นทำให้ต้องปิดกล้องวงจรปิด เนื่องจากสัญญาณทั้งสองระบบเชื่อมต่อกัน ทำให้หลังวันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ รอบพระบรมมหาราชวัง จุดที่อยู่ใกล้กับหมุดคณะราษฎร ไม่มีภาพบันทึกไว้
นอกจาก 2 คนที่ออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้ มีประชาชนกลุ่มหนึ่งร่วมให้กำลังใจ ร่วมถึง นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ นิว แต่เพราะติดภารกิจส่วนตัวที่ศาลทหาร จึงพูดคุยขอให้ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์จากสน.ดุสิตไปส่งที่ศาลทหาร ท่ามกลางประชาชนที่โวยวาย เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายสิรวิชญ์
ขณะเดียวกันวันนี้ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ร่วมกับเครือข่าย เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึกกรณีหมุดคณะราษฏรหายไป โดยระบุว่า หมุดคณะราษฎรมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะ เป็นความทรงจำและเครื่องหมายที่ย้ำเตือนประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลัง พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีติดตามสอบสวนหาผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้
