พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายลอบก่อเหตุป่วนในหลายจุดในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส และสงขลา วานนี้ ว่า เจ้าหน้าที่สามารถคุมสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว เป้าประสงค์ของคนร้าย น่าจะเพียงต้องการสร้างความวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากอาวุธที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นระเบิดขนาดเล็ก ประกอบกับผู้ก่อเหตุเลือกที่จะลงมือกับฐานปฏิบัติการย่อย ซึ่งทั้งหมดไม่น่าจะเกี่ยวกับกระบวนการพูดคุยสันติสุข ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเตือนก่อนแล้ว แต่ไม่สามารถใช้มาตรการด้านความรุนแรง เข้าไปควบคุมได้
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ทราบรายชื่อผู้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลาบางส่วนแล้ว โดย ที่บนบนถนนเส้นทางระหว่างหมู่ 5 ต.สะบ้าย้อยกับหมู่ 1 ต.ธารคีรี ห่างจากฐานชุดคุ้มครองตำบลธารคีรีประมาณ 200 เมตร พบรถจักรยานยนต์ที่บริเวณเบาะที่นั่งฉีกขาดจากแรงระเบิดและจุดนี้พบผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเป็นคนร้ายที่พยายามก่อเหตุ คาดระหว่างนำระเบิดไปป์บอม ไปขว้างใส่อาสาสมัครที่ฐานคุ้มครองตำบล ได้วางระเบิดไว้ที่ตรงกลางระหว่างคนขับกับคนซ้อนท้าย แต่เกิดผิดพลาดระเบิดทำงานขึ้นก่อนทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตคาที่
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มีนายมือลี อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย รวมทั้งยังมีประวัติเป็นสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงระดับแนวร่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบสวนและเชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บรวมรวมพยานหลักฐาน โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่ง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) รวบรวมพยานหลักฐาน เร่งพิสูจน์ทราบ จับกุมผู้ก่อเหตุ และหามาตรการป้องกันเหตุ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ
